Coenzyme Q10 วิตามินสารพัดประโยชน์ที่ร่างกายควรได้รับให้เพียงพอต่อวัน

ทำไมร่างกายขาด Coenzyme Q10 ไม่ได้

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายถูกใช้งานไปเรื่อย ๆ ผลที่ตามมาคือเกิดการซึกหลอของเซลล์ภายในร่างกาย ทำให้อวัยวะภายในร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกายเราขาดการดูแล บำรุงและรักษา สิ่งที่ตามมาคือ”โรค” ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึง โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) หรือที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า คิวเท็น (Q10) เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับเซลล์ภายในอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูง เพื่อให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดโรค 

ร่างกายคนเราสามารถผลิต Coenzyme Q10 ได้เองตามธรรมชาติ แต่จะผลิตน้อยลงเมื่อคุณมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องได้รับวิตามินโคเอนไซม์คิวเท็นให้เพียงพอตามที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับ Coenzyme Q10 ว่ามีประโยชน์อย่างไร ใครบ้างที่ควรได้รับ Coenzyme Q10 และปริมาณที่ควรได้รับ  เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้นำไปปรับใช้



Coenzyme Q10 คืออะไร

Coenzyme Q10 คือ วิตามินที่พบได้ในเซลล์ซึ่งไหลเวียนอยู่ภายในทุกส่วนของร่างกาย เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมัน มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูงในการทำงาน เช่น กล้ามเนื้อ ผิวหนัง หัวใจ ปอด ไต ตับ ตับอ่อน สเปิร์ม และเซลล์ไข่ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของการเสื่อมสภาพของร่างกาย 


Coenzyme Q10 พบได้ที่ไหนบ้าง

ร่างกายผู้หญิงจะพบปัญหาด้านการขาด Coenzyme Q10 มากกว่าผู้ชาย เพื่อเป็นการป้องกันอาการขาด Coenzyme Q10 ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรทานอาหารที่มีวิตามินโคเอนไซม์คิวเท็นรวมอยู่ เช่น ผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว รำข้าว เนื้อสัตว์ นม ไข่ ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาทะเลทุกสายพันธุ์ แต่เมื่ออายุมากขึ้นหลายคนอาจพบปัญหาอาหารไม่ย่อย ย่อยยาก หรือประสิทธิภาพในการดูซึมสารอาหารน้อยลง ดังนั้นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำให้คุณได้รับสารอาหารที่เพียงพอคือ การทานอาหารเสริม Coenzyme Q10 รูปแบบเม็ด


Coenzyme Q10 มีประโยชน์อย่างไร

Coenzyme Q10 มีส่วนช่วยในการเพิ่มออกซิเจน (Oxygen) และช่วยสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย (Adenosine Triphosphate) ทำให้เซลล์สามารถดึงพลังงานไปใช้กับอวัยวะต่าง ๆ ได้ดีและที่สำคัญ Coenzyme Q10 สามารถป้องกันและรักษาอาการของโรคบางชนิดได้ ดังนี้  

  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • ลดความเสียงการเกิดโรคมะเร็ง
  • ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  • ช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน
  • ช่วยป้องกันหัวใจล้มเหลว
  • ช่วยอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย
  • ป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับปอด
  • ลดการเกิดไมเกรน
  • สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น
  • ช่วยสเปิร์มและเซลล์ไข่แข็งแรง
  • ช่วยรักษาโรคเหงือกและฟัน
  • ป้องกันโรคกล้ามเนื้อเสื่อมหรือผิดปกติ
  • ลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล

ใครบ้างที่ควรได้รับ Coenzyme Q10

Coenzyme Q10 เป็นวิตามินที่ร่างกายทุกคนควรได้รับอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพราะถ้าหากร่างกายขาด Coenzyme Q10 ผลที่ตามมาคือเซลล์ในร่างกายจะชะลอการทำงานลงทันทีและส่งผลให้เกิดโรคตามมา ซึ่งข้อดีของ Coenzyme Q10 นอกจากเสริมสร้างการทำงานของเซลล์แล้วยังสามารถใช้รักษาโรคบางกลุ่มได้ ดังนี้

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • โรคเบาหวาน
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน
  • ผู้ป่วยที่มีไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
  • ผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
ใครบ้างที่ควรได้รับ Coenzyme Q10

วิธีการเลือกซื้อ Coenzyme Q10 

ปัจจุบันมีหลายบริษัทผลิตวิตามิน Coenzyme Q10 มากขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านขายยาทั่วไป แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทานอาหารเสริม ควรศึกษาข้อมูลวิธีการเลือกซื้อว่า Coenzyme Q10 รูปแบบใดเหมาะกับคุณที่สุด ซึ่งวิธีการเลือกซื้อมีดังนี้

  • จุดสงค์ในการทาน Coenzyme Q10
  • เลือกปริมาณ Coenzyme Q10 ตามที่ร่างกายต้องการ
  • เลือกรูปแบบของเม็ดยาที่ต้องการ เช่น แคปซูลบรรจุผง แบบผงอัดเม็ด หรือแบบแคปซูลนิ่ม(เจล)
  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ ผ่านการตรวจสอบจาก อย.
  • เปรียบเทียบราคาและปริมาณ Coenzyme Q10 จากหลาย ๆ แบรนด์

คำแนะนำในการกิน Coenzyme Q10 

คำแนะนำในการกิน Coenzyme Q10 อย่างไรให้เห็นผลและได้ประสิทธิภาพสูงสุด คือ ต้องรู้ก่อนว่าร่างกายของเราต้องการ Coenzyme Q10 เพื่อนำไปซ่อมแซมอวัยวะส่วนใดในร่างกาย จากนั้นเราจึงเช็คว่าอาการที่เป็นอยู่ต้องใช้ปริมาณ Coenzyme Q10 ในการรักษากี่มิลลิกรัมต่อวัน หรือสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอาการและปริมาณยาที่ควรได้รับได้เช่นกัน


Coenzyme Q10 มีผลข้างเคียงไหม

ก่อนจะนำอะไรเข้าสู่ร่างกายต้องศึกษาข้อมูลของอาหารหรือวิตามินประเภทนั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน เพราะทุกอย่างที่เรากินจะมีผลต่อร่างกายเราเสมอ และที่สำคัญอย่าอ่านแต่ข้อดีและผลลัพธ์ด้านดีจนลืมหาข้อมูลของผลข้างเคียง ตัวอย่างเช่น Coenzyme Q10 ที่มีข้อดีมากมายให้เราอ่าน แต่จริง ๆ แล้วผลข้างเคียงก็มีมากไม่แพ้กันหากมีอาการแพ้หรือได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ดังนี้

  • เบื่ออาหาร
  • ปวดท้อง ท้องเสีย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • รู้สึกกระหายน้ำ
  • ผื่นขึ้นตามผิวหนัง
  • หายใจลำบาก
  • นอนไม่หลับ
  • ใบหน้าและคอบวม
  • อารมณ์แปรปรวน
  • เป็นลมหมดสติ

ปริมาณ Coenzyme Q10 ที่ควรได้รับ

ปริมาณ Coenzyme Q10 ที่ร่างกายแต่ละคนควรได้รับไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ใช้เพื่อรักษาโรคประจำตัว ใช้เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์สำหรับผู้ที่มีภาวะขาด Coenzyme Q10 หรือใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณ เป็นต้น ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำปริมาณวิตามินที่ควรได้รับเมื่อต้องการรักษาอาการดังกล่าว

  • ฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย ควรทานวันละ 150 มิลลิกรัม
  • ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ควรทานวันละ 30 – 100 มิลลิกรัม
  • รักษาอาการขาด Coenzyme Q10 ควรทานวันละ 150 – 2,400 มิลลิกรัม
  • ผู้ที่ใช้ยากลุ่มสตาติน ควรทาน 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 50 มิลลิกรัม
  • ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อม ควรทานวันละ 300 มิลลิกรัม
  • ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อผิดปกติ ควรทานวันละ 150 มิลลิกรัม
  • รักษาโรคเหงือกอักเสบ ควรทานวันละ 120 มิลลิกรัม
  • โรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน ควรทาน 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 100 มิลลิกรัม
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ควรทานวันละ 150 – 600 มิลลิกรัม
  • รักษาภาวะหัวใจล้มเหลว ควรทานวันละ 100 – 300 มิลลิกรัม
  • ลดความดันโลหิต  ควรทานวันละ 120 – 200 มิลลิกรัม
  • ลดอาการปวดหัวไมเกรน ควรทาน 3 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 100 มิลลิกรัม
  • รักษาเบาหวาน ควรทาน 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 100 มิลลิกรัม
  • รักษาโรคเอชไอวีหรือโรคเอดส์ ควรทานวันละ 200 มิลลิกรัม
ปริมาณ Coenzyme Q10 ที่ควรได้รับ