เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด!!

การคุมกำเนิดนั้นมีหลายวิธีด้วยกันสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงยาคุมกำเนิด ที่สามารถเลือกใช้ได้หลายแบบ อย่างเช่น ยาคุมแบบแปะ ยาคุมแบบฉีด ยาฉีดคุมกําเนิด และยาเม็ดคุมกําเนิด อีกทั้งยังมีให้เหลือหลายยี่ห้อหลายราคา เราจึงรวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยาคุมกำเนิดให้คุณแล้วติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ทำความรู้จักยาคุมกำเนิด (Birth Control Pill)
ทุกคนทราบแล้วว่ายาคุมกำเนิดทานเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ แต่สาว ๆ หลายคนคงยังไม่ทราบว่ายาเม็ดคุมกำเนิดที่ทานเข้าไปนั้นมีส่วนผสมของ ฮอร์โมน Estrogen (เอสโตรเจน) และ Progesterone (โปรเจสเตอโรน) ใช้กินเพื่อยับยั้งภาวะเจริญพันธุ์ในเพศหญิง ซึ่งวิธีกินยาคุมกำเนิดนั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดเมื่อสาว ๆ ทานเข้าไปแล้ว ยาคุมกำเนิดจะเกิดปฏิกิริยาต่อผนังมดลูก ทำหน้าที่ควบคุมระดับฮอร์โมนของร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดการตกไข่ ทำให้ผนังทำให้ผนังมดลูกบางจนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ เพิ่มความข้นเหนียวเกิดมูก หรือเมือกที่บริเวณปากมดลูกเพื่อไม่ให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิได้ยากขึ้น
ยาเม็ดคุมกำเนิดมีกี่แบบ
ยาคุมกำเนิดมี 3 ชนิด คือ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว และยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน แต่นอกจากยาคุมกำเนิดทั่วไปที่ต้องกินอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอแล้ว ยังมียาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินที่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แบบไม่ป้องกันได้
ความแตกต่างของยาคุมกำเนิดกับยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมกำเนิดกับยาคุมฉุกเฉินแตกต่างกันอย่างไร? ข้อแตกต่างของยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะมีปริมาณฮอร์โมนที่มากกว่ายาคุมปกติ คุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น จะมีส่วนผสมของฮอร์โมนตัวเดียวเท่านั้นคือ โปรเจสติฮอร์โมนเดี่ยว
วิธีการทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน มี 2 แบบด้วยกัน คือ ทานพร้อมกัน 2 เม็ด หรือแบ่งทานทีละเม็ด และไม่ควรทานทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินมากกว่า 4 เม็ด ภายในเดือนเดียว ดังนั้นควรกินยาคุมฉุกเฉินตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือตามเอกสารกำกับยา
ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม

ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม คือ มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในหนึ่งเม็ด ฮอร์โมนทั้งสองชนิดจะช่วยยับยั้งการตกของไข่พร้อมกับทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมดลูก และปากมดลูกที่ส่งผลต่อกระบวนการปฏิสนธิ ทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ได้ผลดีและยังทำให้ประจำเดือนมาปกติ
โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้
1.เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนเท่ากันทุกเม็ด
- มีแบบ 21 เม็ด กับ 28 เม็ด ( 7 เม็ดหลังไม่มีฮอร์โมน)
2.แบบที่ฮอร์โมนทั้งสองไม่เท่ากัน
- ชนิด 2 ระยะ จะประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในปริมาณต่างกัน 2 แบบ ซึ่งจะมี 2 สีคือ 7 เม็ดแรกเป็นสีหนึ่ง และ 15 เม็ดหลังเป็นอีกสีหนึ่ง
- ชนิด 3 ระยะ จะประกอบด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนในปริมาณที่ต่างกัน 3 แบบ ซึ่งจะมี 3 สี แบ่งเป็น 6 เม็ด 5 เม็ด และ 10 เม็ด รวมเป็น 21 เม็ด (อาจจะมีแป้งเพิ่มอีก 7 เม็ด รวมเป็น 28 เม็ดก็ได้ )
ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว จะมีฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ยาคุมชนิดนี้ในหนึ่งแผงจะมีทั้งหมด 28 เม็ด รับประทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องหยุด แตกต่างกับยาคุมกำเนิดแบบรวมจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนรวมกันในเม็ดเดียว โดยยาคุมกำเนิดแบบรวมจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมาก หากรับประทานอย่างสม่ำเสมอ
ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด กับ 28 เม็ดต่างกันอย่างไร
ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด กับ 28 มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วมีทั้งแบบฮอร์โมนเดี่ยว ฮอร์โมนรวมหรือไม่ ดังนี้
ยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด

ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมมีแบบ 21 เม็ด ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด ไม่มีเม็ดแป้ง หลังหยุดทาน 1-3 วัน จะเริ่มมีประจำเดือน แนะนำให้เริ่มทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งถัดไป
ยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด

ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมมีแบบ 28 เม็ดด้วย โดย 7 เม็ดหลังไม่มีฮอร์โมน เป็นยาที่รับประทานทุกวัน โดยการรับประทานจะเหมือนกับยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด แต่จะไม่มีช่วงหยุดยา 7 วัน เปลี่ยนเป็นการทานเม็ดแป้งอีก 7 เม็ดแทน เพื่อช่วยให้คุณไม่ลืมทานยา
แนะนำวิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง

เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการป้องกันหรือกินยาคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉินจึงเป็นอีกตัวช่วยเพื่อคุมกำเนิด แต่หากกินไม่ถูกต้องอาจไม่เห็นผล ดังนั้นจึงควรทราบวิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง มีดังนี้
- ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ชนิด 1 เม็ด รับประทาน 1 เม็ดครั้งเดียวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์
- ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ชนิด 2 เม็ด รับประทาน 1 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเม็ดที่สองรับประทานหลังจากเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง
ประโยชน์ – ข้อจำกัดของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
สาว ๆ หลายคนไม่เลือกคุมกำเนิดแบบยาเม็ดคุมกําเนิด เพราะกลัวเป็นสิวและอ้วนแต่ในปัจจุบันยาคุมกำเนิดมีให้เลือกหลายยี่ห้อ และเป็นยาคุมไม่อ้วน ลดสิว หน้าใส แต่ยาคุมกำเนิดก็มีทั้งประโยชน์และข้อเสีย ดังนี้
ประโยชน์ของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
การกินยาคุมกำเนิดไม่เพียงแต่ช่วยคุมกำเนิดเท่านั้น ยังมีประโยชน์กับสาว ๆ อีกหลายอย่าง เช่น ผู้หญิงที่มีปัญหาประจำเดือนเลื่อนหากทานยาคุมจะทำให้ประจำเดือนมาตรงมากยิ่งขึ้น เมื่อทานต่อเนื่องประจำเดือนจะมาอย่างสม่ำเสมอ และ แม่นยำขึ้น หรือไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิดช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์ได้
ข้อจำกัดของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
ส่วนประกอบของยาคุมกำเนิดจะมีฮอร์โมนในปริมาณมาก ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดยังมีข้อจำกัดกับคนที่เป็นโรคบางประเภท เช่น ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่มีความผิดปกติของหลอดเลือด หรือการทำงานของไต
ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด
กินยาคุมกำเนิดให้ได้ผลมีประสิทธิภาพนั้น ต้องกินยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องตามประเภทของยาคุมกำเนิด หากเป็นยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด กับ 28 เม็ดต้องกินอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีปัจจัยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดด้วย
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด
- การใช้ยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอและใช้อย่างถูกต้อง
- ปฏิกิริยาระหว่างยา การใช้ยาอื่นร่วมกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิดอาจรบกวนประสิทธิภาพของยายาคุมกำเนิดได้
- ดัชนีมวลกาย การศึกษาพบว่าผู้หญิงที่อ้วนเกิน กินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากกว่าคนที่ไม่ได้อ้วนเกิน
ข้อห้ามสำหรับการใช้ยาคุมกำเนิด

- ห้ามกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่หมดอายุโดยเด็ดขาย
- ห้ามผู้หญิงที่ให้นมบุตรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ควรใช้ยาคุมกำเนิดประเภทโปรจสตินอย่างเดียว
- ห้ามสูบบุหรี่ระหว่างช่วงที่ต้องกินยาคุมกำเนิด เพราะทำให้เสี่ยงเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำได้
- ผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินของเลือด หรือเคยมีประวัติโรคลิ่มเลือดอุดตัน ห้ามกินยาคุมกำเนิดโดยเด็ดขาด ยกเว้นว่าปรึกษาแพทย์แล้ว
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีหรือเคยมีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจบางชนิด
- ผู้ที่มีหรือเคยมีอาการหัวใจวาย
- สตรีหลังคลอดไม่ถึง 21 วัน ไม่ควรกินยาคุมกำเนิด
- ห้ามใช้ยาคุมกำเนิดในสตรีที่ยังไม่เคยมีประจำเดือน
ผลข้างเคียงจากการกินยาคุมกำเนิด

ผลข้างเคียงยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม
เนื่องจากในตัวยามีฮอร์โมนอาจจะทำให้มีฮอร์โมนในร่างกายมากเกินไป เมื่อใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ ตัวบวมน้ำ มีเลือดออกคล้ายประจำเดือน นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ผลข้างเคียงยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว
ผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นในช่วงแรกที่เริ่มกินยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยวเข้าไป แล้วถัดไป 2-3 เดือนผลข้างเคียงก็จะค่อย ๆ บรรเทาลง ผู้หญิงบางคนอาจจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวน น้ำหนักตัวเพิ่ม มีสิวขึ้น หน้ามัน คลื่นไส้ อาเจียน มีจุดด่างปรากฏบนผิวหนัง คัดหน้าอกเหมือนเจ็บเต้านม
ลืมกินยาคุมกำเนิด ทำอย่างไรดี
กรณีลืมกินยาคุมกำเนิด 1 เม็ด
ให้กินยาคุมกำเนิดเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ และกินยาคุมกำเนิดเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ ดังนั้นในวันนั้น ต้องทานทั้งหมด 2 เม็ด
กรณีลืมกินยาคุมกำเนิด 2 เม็ด
ให้กินยาคุมกำเนิดเม็ดสุดท้ายที่ลืมทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ ดังนั้นในวันนั้นจะกินยารวมเป็น 2 เม็ด ส่วนยาคุมกำเนิดเม็ดก่อนหน้านั้นที่ลืมกินให้ทิ้งไป
กรณีลืมกินยาคุมกำเนิดมากกว่า 2 วัน
ให้กินยาคุมกำเนิดเฉพาะยาเม็ดคุมกําเนิดที่เพิ่งลืมทันทีที่นึกได้ และทิ้งเม็ดยาที่ลืมก่อนหน้านั้น และใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
กรณีลืมกินยาคุมกำเนิดเม็ดแป้ง
กรณีลืมกินยาคุมกำเนิดเม็ดแป้ง เม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมน ให้แกะเม็ดที่ลืมทิ้งไป และวันถัดไปให้กินเม็ดที่เหลือได้ตามปกติ
วิธีเก็บรักษายาคุมกำเนิด

วิธีเก็บรักษายาคุมกำเนิดแนะนำเก็บรักษายาคุมกำเนิดพกติดตัว เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นเป็นยาที่ต้องทานสม่ำเสมอ หากพกติดตัว เพื่อป้องกันการลืมกินยาคุมกำเนิดได้นั้นเอง
ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อไหนดี
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Sucee

ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Sucee มีให้เลือกทั้ง 21 เม็ด และ 28 เม็ดเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายสูง ซึ่งจะมีสิว หน้ามัน ขนดก
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Herz

ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Herz ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 28 เม็ด รูปแบบ 24+4 เป็นยาคุมกำเนิดไม่ทำให้เกิดอาการบวมหรือน้ำหนักเกิน รักษาสิวลดความมันของเส้นผมและผิว
3. ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Minny

ยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อ Minny เป็นยาคุมกำเนิดผู้หญิงที่กลัวน้ำหนักขึ้นและไม่ต้องการรักษาสิวที่รุนแรง
FAQs ยาคุมกำเนิด
กินยาคุมกี่วันถึงจะมีเพศสัมพันธ์ได้
สำหรับผู้หญิงเริ่มกินยาคุมกำเนิดเป็นครั้งแรกเกินวันที่ 5 นับตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 7 วัน หรือหากจะมีเพศสัมพันธ์ให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย
กินยาคุมแล้วท้องเกิดจากสาเหตุใด
กินยาคุมแล้วท้องเกิดจากสาเหตุจาก ลืมกินยาคุมกำเนิดหรือ กินยาคุมกำเนิดไม่ตรงเวลา รวมถึงกินยาคุมกำเนิดร่วมกับยาปฏิชีวนะ
กินยาคุมกำเนิดส่งผลให้อ้วนและน้ำหนักขึ้นจริงไหม
ในยาคุมกำเนิด ทำให้ร่างกายเก็บน้ำ เกลือ และของเหลวมากขึ้น ทำให้บวมน้ำดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ในปัจจุบันมียาคุมให้เลือกหลายยี่ห้อ สาว ๆ ที่กลัวอ้วนสามารถเลือกใช้ยาคุมกำเนิดได้ตามความต้องการ
หลังคลอด กินยาคุมตอนไหน
สำหรับคุณแม่ให้นมบุตร สามารถกินยาคุมได้เมื่อ 6 สัปดาห์หลังคลอด เพราะหากรอให้ประจำเดือนมาแล้วค่อยกินยาคุม อาจเสี่ยงตั้งครรภ์หากระหว่างนั้นมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน
ข้อสรุป
วิธีกินยาคุมมีทั้งประโยชน์และข้อจำกัดผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค หากต้องการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดควรพบแพทย์ เภสัช เพื่อเลือกใช้ยาคุมที่ไม่เหมาะกับร่างกายของคุณ รวมถึงกินยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอเพื่อให้ยาคุมกำเนิดออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ