|

โบท็อกกราม แก้ปัญหากรามใหญ่ ให้ใบหน้าเรียวสวยสะดุดตา

โบท็อกกราม

หลายคนที่กำลังประสบปัญหากรามใหญ่ อยากจะมีรูปหน้าที่เรียวกระชับ แต่ก็ไม่อยากผ่าตัดให้เจ็บตัว เราขอแนะนำการฉีดโบลดกราม ที่จะช่วยให้คุณหน้าเรียวได้อย่างทันใจ สามารถเห็นผลไว ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง คำถาม คือ โบท็อกกรามคืออะไร ถ้าเราสนใจ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ก่อนอื่น เราต้องไปทำความรู้จักกับbotoxกรามกันก่อน!!



โบท็อกกราม คือ 

ฉีดโบลดกราม

โบท็อกกราม หรือที่เรียกว่า การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin Type A) ที่สกัดมาจากแบคทีเรียเพื่อออกฤทธิ์ไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามขยับได้ เข้าไปในส่วนของกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือกรอบหน้า เพื่อให้สารโบท็อกนี้ ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลง หรือหยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามเริ่มมีขนาดเล็กลง

ดังนั้น การฉีดโบลดกรามจะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามที่หดเกร็งเกิดการคลายตัวและอ่อนแรงลง หดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เป็นการแก้ปัญหาให้กับคนที่มีลักษณะกรามใหญ่ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว เรียกได้ว่า โบท็อกกรามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลองทำ

สรุปได้ว่า การฉีดหน้าเรียว หรือ โบท็อกกราม เป็นการฉีดโบท็อกลดกราม ที่ช่วยให้เรามีกรอบหน้าที่กระชับขึ้น รูปหน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้คนที่มีลักษณะใบหน้ากรามเด่นชัดดูสมส่วนขึ้น และยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และรอยย่นในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย


ผลลัพธ์ของการทำโบท็อกกราม

ฉีดหน้าเรียว

หากคุณได้ฉีดโบท็อกกราม เพื่อปรับรูปหน้า ผลลัพธ์ที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน คือ

  • ช่วยลดขนาดกรามลงได้อย่างเห็นผล
  • รูปหน้าจะมีขนาดเล็กลง ใบหน้าจะเรียวมากขึ้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย และรอยย่นต่าง ๆ บนใบหน้า

แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับคนไข้ด้วย เพราะโบท็อกกรามจะใช้ได้ผลกับกล้ามเนื้อเท่านั้น ดังนั้น แพทย์จึงต้องประเมินรูปหน้าของคนไข้ก่อนว่า ปัญหากรามของคนไข้เกิดมาจากอะไร เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ หรือว่าไขมัน เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้ ส่วนข้อดีของการฉีดโบท็อกกราม คือ 

  • สามารถเห็นผลได้เร็ว ภายใน 7 – 14 วัน
  • ไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่เจ็บตัว ไม่มีรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้น
  • หลังฉีด สามารถใช้ชีวิตต่อได้ตามปกติ
  • หากฉีดโบลดกรามด้วยของแท้ 100% จะปลอดภัยไม่มีสารตกค้างใด ๆ

การฉีดโบกราม ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามได้อย่างไร

ด้วยกระบวนการของโบท็อกกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin) ที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อได้ชั่วคราว  โดยจะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวในบริเวณที่ฉีด และหยุดเคลื่อนตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง และใบหน้าดูเรียวขึ้น 


ฉีดโบท็อกลดกราม เหมาะกับใคร? 

ฉีดโบท็อกหน้าเรียว

การฉีดโบลดกราม เรียกได้ว่า กำลังเป็นที่นิยมกัน แต่ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่ในการดุลยพินิจของแพทย์ว่าเหมาะสมที่จะทำหรือไม่ แต่ทั้งนี้ เราสามารถสังเกตและประเมินตนเองได้ก่อนเบื้องต้น ว่าควรจะรักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่ โดยเราได้สรุปลักษณะของบุคคลที่ควรจะฉีดโบท็อกกรามไว้ ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากขนาดกล้ามเนื้อกราม
  • ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากการเคี้ยวข้าว การขยับมาก ๆ
  • คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากมีแผลและไม่มีเวลาพักฟื้น

ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากโครงสร้างกระดูก การฉีดโบลดกรามจะไม่สามารถช่วยได้


ฉีดโบท็อกกรามครั้งแรก! เตรียมตัวอย่างไร

โบท็อกลดกราม

เมื่อเราพิจารณาแล้ว เราควรที่จะทำโบท็อกกราม ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องรู้ถัดมา คือ วิธีการเตรียมตัว ก่อนที่จะเข้ารับการรักษา ว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ทั้งอาหารการกิน การดูแลตนเอง โดยเราจะสรุปตั้งแต่ต้นของการตัดสินใจที่จะฉีดโบลดกรามกันเลย

  1. ศึกษาข้อมูลของโบท็อกกรามให้ละเอียด เช่น เป็นฉีดสารอะไร เข้าบริเวณใด โบท็อกกรามของแท้เป็นอย่างไร ข้อดีข้อเสีย อาการผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น
  2. เลือกสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน โดยพิจารณาจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่น รีวิวออนไลน์ เว็บไซต์ของสถานพยาบาล แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ผลิตภัณฑ์โบท็อกกรามที่เลือกใช้ เป็นต้น
  3. เข้าพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการรักษาและยาที่แพ้ก่อนทุกครั้ง พร้อมทั้งรับคำปรึกษา และร่วมกันวางแผนแนวทางการรักษา
  4. งดทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ประเภท Naproxen และ Ibuprofen และอาหารเสริม เพราะอาจส่งผลให้เกิดภาวะเลือดไม่หยุดไหลได้ หากใครมียาที่ทานประจำควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนเข้ารับการรักษา
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ และงดสูบบุหรี่ รวมถึงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะอาจมีผลทำให้เกิดการอักเสบได้
  6. ก่อนฉีดทุกครั้ง ควรให้แพทย์ผสมโบท็อกกรามต่อหน้าและสังเกตทุกครั้งว่ายาที่ใช้เป็นของแท้

และที่สำคัญ หากมีประวัติเคยเป็นโรคเริมที่ริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการปรึกษาโบท็อกกราม เพราะในบางกรณี อาจมีผู้ป่วยที่มีอาการเริมกำเริบ หลังจากฉีดโบลดกราม จนแพทย์ต้องจ่ายยาป้องกันเริมให้


ฉีดโบท็อกกรามอันตรายไหม

botox กราม

ด้วยการฉีดโบท็อกกราม เป็นการใช้สารสกัดที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายหายไปเองตามธรรมชาติ ดังนั้น หากเราฉีดโบลดกรามด้วยของแท้ก็จะไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ดังนั้น เราจึงขอสรุปข้อควรระวัง เพื่อลดโอกาสที่อาจจะเกิดอันตรายในการฉีดโบท็อกหน้าเรียวไว้ ดังนี้

  • เลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ
  • ใช้โบท็อกกรามของแท้ 100% และสามารถตรวจสอบได้
  • อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

แต่ทั้งนี้ คนไข้บางรายก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้หลังจากที่ทำโบท็อกกราม  ตั้งแต่อาการบวมช้ำ อาการหน้าตึงจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ หรือแม้แต่อาการยิ้ม 2 ข้างไม่เท่ากัน เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้ ก็สามารถทำการแก้ไขได้


หลังฉีดโบลดกรามดูแลตัวเองอย่างไร?

เมื่อเราเข้ารับการฉีดโบลดกรามเรียบร้อย สิ่งต่อมาที่เราจะต้องทราบและปฏิบัติตาม เพื่อดูแลตัวเอง ให้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนี้

  • หลังฉีดโบลดกราม ควรเคี้ยวหมากฝรั่งหรือกัดฟันไว้หลังฉีด และค่อยๆ บริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกกระจายตัวและเซลล์ประสาทดูดซึมเข้าไปได้มากที่สุด
  • งดนอนราบเป็นเวลา 3 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่ใบหน้ามากขึ้น ทำให้โบท็อกกรามที่ฉีดปลิวไปในบริเวณที่ไม่ต้องการได้
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมความร้อนทุกชนิดที่ทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด อย่างน้อย 3 วัน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและสูบบุหรี่ และงดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด ในช่วง 2 อาทิตย์หลังฉีด
  • งดเคี้ยวอาหารแข็ง ๆ หรือเหนียวจนเกินไป รวมถึงอาหารหมักดอง เพื่อลดการกระตุ้นกล้ามเนื้อกราม ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดโบลดกราม
  • สามารถทาครีมบำรุงอื่น ๆ และเครื่องสำอางได้ตามปกติ หลังฉีดโบลดกราม 2 สัปดาห์
  • ควรรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกกรามออกฤทธิ์ไวขึ้น

ฉีดโบท็อกกรามที่ไหนดี?

ฉีดโบลดกรามที่ไหนดี

จากที่กล่าวไปว่า การฉีดโบลดกรามจะต้องเลือกสถานพยาบาลให้ดีและยี่ห้อโบท็อกที่ดีและเชื่อถือได้ โดยดูจากหลาย ๆ ปัจจัย ก่อนจะทำการตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่นั่น ได้แก่

  • คลินิกมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก คลินิกสะอาด มีอุปกรณ์ครบครัน
  • แพทย์เฉพาะด้าน มีใบรับรอง และมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า
  • ผลิตภัณฑ์โบท็อกกรามเป็นของแท้ ผ่าน อย. ขอตรวจสอบว่า โบท็อกเป็นของแท้ แพทย์แกะกล่อง ผสมน้ำเกลือ ดูดยาให้ดูต่อหน้า ขอกล่องมาตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้
  • มีการติดตามผลหลังทำ และแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกกรามอย่างละเอียด
  • มีการรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือ ควรดูรูปภาพประกอบกับคลิปวีดิโอ (คลิปวีดิโอตัดแต่งได้ยากกว่า)

ร้อยไหมหน้าเรียว vs โบลดกราม ทำอะไรดี?

หัตถการเสริมความงามที่ช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น นอกจากจะฉีดโบลดกรามแล้ว ก็ยังมีร้อยไหมหน้าเรียว โดยทั้ง 2 อย่าง มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนี้

ร้อยไหมหน้าเรียว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยมาก แก้มตกลงตามแรงโน้มถ่วง เมื่อร้อยไหมจะช่วยดึงผิวที่ย้อยลงมาให้กระชับขึ้นไป ใบหน้าจึงยกขึ้น และดูเรียวขึ้น 

ฉีดโบลดกราม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง หน้าเรียวขึ้น นิยมทำร่วมกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย หรือโบท็อกทั่วหน้า ก็จะให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวร่วมด้วย

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 แบบช่วยยกกระชับใบหน้า เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีลักษณะรูปหน้าที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงต้องเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับตัวของเรา นอกจากนี้ เรายังสามารถทำทั้งโบท็อกกรามและร้อยไหมร่วมกันได้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเสริมกัน และได้ผลดียิ่งขึ้น


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกกราม 

ฉีดกราม

หากคุณกำลังลังเล ว่า จะโบท็อกกรามดีหรือไม่ แล้วฉีดโบลดกรามจะเห็นผลในกี่วัน จะต้องฉีดซ้ำหรือไม่ หลากหลายคำถามที่ค้างคาใจ เราขอรวบมาตอบให้คุณตรงนี้

1. Botox ลดกรามเห็นผลได้ภายในกี่วัน?

botoxกรามสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด จะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเมื่อผ่านไปแล้ว 2 – 3 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 7 – 14 วัน กล้ามเนื้อกรามจะเริ่มนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามเริ่มไม่เด้ง เริ่มเห็นว่ายุบลงตอน 1 เดือน ยุบเต็มที่ตอน 2-3 เดือน ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น

2. ฉีด Botox ลดกราม เจ็บไหม? 

ด้วยการฉีดโบท็อกกรามนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาหรือยาระงับความรู้สึก ดังนั้น ในขั้นตอนการฉีดก็อาจจะมีความเจ็บบ้างแล้วแต่บุคคล บางรายก็บอกไม่เจ็บเลย แต่บางรายก็บอกเจ็บนิดหน่อย แต่ถ้าหากเรากลัวเจ็บมาก ๆ ก็สามารถทายาชาหรือประคบเย็นร่วมด้วยได้

3. ฉีดโบท็อกลดกรามอยู่ได้นานไหม?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบลดกรามสามารถอยู่ได้นาน 5 – 8 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย ได้แก่

  • ยี่ห้อของโบท็อกกรามที่เราใช้ฉีด 
  • เทคนิคของแพทย์ 
  • วิธีการดูแลตัวเองหลังจากที่โบท็อกกรามไปแล้ว
  • การใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้

โบท็อกกรามราคาพิเศษกับรมย์รวินท์คลินิก

โบท็อกซ์กราม

รมย์รวินท์คลินิก เป็นสถานพยาบาลเสริมความงามที่พร้อมให้บริการทางด้านโบท็อกกราม ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีประสบการณ์ในการฉีดโบลดกราม สามารถรักษาปัญหาที่หนักใจได้อย่างตรงจุด ด้วยเทคนิคเฉพาะที่คิดค้นโดยรมย์รวินท์คลินิกเท่านั้น เพื่อการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ พร้อมทั้งสารที่ฉีดใช้เป็นของแท้ทุกกล่อง สามารถตรวจสอบจากอย.ได้ และที่สำคัญ มีโปรโมชั่นดี ๆ มานำเสนออยู่ตลอด