CPC (Cost per click) คืออะไร นักการตลาดออนไลน์ทุกคนควรรู้จัก!!

CPC คือ

เจ้าของธุรกิจหลาย ๆ คนเริ่มมองหากลยุทธ์ในการโฆษณาผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเองผ่านโลกออนไลน์กันมากขึ้น โดยให้ลูกค้ากดคลิกโฆษณาเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา แต่เราก็ต้องหาแพลตฟอร์มที่เราจะลงโฆษณาไว้ และนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า CPC แล้ว CPC คืออะไร CPC หรือ Cost per Click คือ ต้นทุนต่อการคลิก 1 ครั้ง ซึ่งมีหลักการคำนวณ ข้อดีข้อเสีย และข้อควรรู้อีกมากมาย ซึ่งบทความนี้ จะทำให้คุณได้รู้จัก CPC มากยิ่งขึ้น


Cost per Click หรือ CPC คืออะไร 

CPC คืออะไร” เป็นคำถามยอดนิยมที่หลายคนกำลังสงสัย CPC ย่อมาจากคำว่า Cost per Click คือ ต้นทุนต่อการที่ลูกค้าคลิกเข้าชมโฆษณาของเราใน 1 ครั้ง โดยเราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในราคาที่กำหนดไว้ 

กล่าวคือ เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาของเรา 1 ครั้ง เราก็จะต้องชำระเงินให้แก่แพลตฟอร์มที่เราลงโฆษณาไว้ โดยที่เราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เอง พร้อมทั้งยังสามารถลงเงินมากกว่าคู่แข่งทางธุรกิจรายอื่น ๆ ซึ่ง CPC จะช่วยชี้วัดการมองเห็นโฆษณาของเราได้อีกด้วย

โดยที่ CPC คือ เมทริกซ์ที่ใช้กับการโฆษณาได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ ซึ่งจะปรากฏในหน้าผลการค้นหา ทั้งแบบดิสเพลย์และบนโซเชียลมีเดียด้วย ถือว่าเป็นการโฆษณาธุรกิจของเราได้อย่างง่ายดาย เพราะทุกวันนี้ ผู้คนนิยมเข้าโซเชียลมีเดียเป็นหลัก

ดังนั้น หากเราต้องการวัดผลจากการโฆษณาก็สามารถทำได้ โดยการวัดจากการคลิก เพราะมีการเชื่อมโยงกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ที่เราจะต้องชำระให้แก่แพลตฟอร์ม จึงทำให้เราสามารถทราบผลการโฆษณาที่เกิดขึ้นได้


การคำนวณค่าใช้จ่ายในการทำ CPC 

การคำนวณค่าใช้จ่ายในการทำ CPC

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า CPC คืออะไร ส่วนถัดมาที่เราต้องเข้าใจ คือ หลักการคำนวณค่าใช้จ่ายในการทำ CPC ว่า เราควรจะจ่ายเงินค่าโฆษณาจริง ๆ จำนวนเท่าใด

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า อันดับโฆษณาที่ต่างกันย่อมมีการมองเห็นที่แตกต่างกัน จึงส่งผลต่อจำนวนคลิกที่แตกต่างกันด้วย โดยโฆษณาที่อยู่อันดับบนสุดก็ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้มากที่สุด ซึ่งนั่นหมายความว่า เราอาจจะต้องเสนอราคา CPC ที่สูงกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นโฆษณาของเราก่อนรายอื่น

โดยวิธีการคำนวณ CPC (ต้นทุนต่อคลิก) ซึ่งเราสามารถกำหนดอัตราโฆษณาจากการคลิกได้เอง เช่น ถ้าเรากำหนด CPC = 5 บาท เมื่อเกิดการคลิก 1 ครั้ง ก็จะต้องเสียเงินค่าโฆษณา 5 บาท โดยคุณสามารถกำหนดเพดานต้นทุนได้ด้วย หรือที่เรียกว่า Max CPC หรือ CPC สูงสุด


การทำ CPC สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร 

การทำ CPC คือ การคลิกโฆษณาธุรกิจของเราบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถ้าหากเรามีค่า CPC ที่สูง นั่นหมายความว่า ธุรกิจกำลังเสียต้นทุนก็เกินความจำเป็น ทำให้ผลตอบแทนในการลงทุนโฆษณาของเราจะน้อยลง ดังนั้น เราจึงควรมองหากลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนแคมเปญ เพื่อให้ได้ Cost per Click ที่ราคาถูก และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม


CPC และ PPC แตกต่างกันอย่างไร 

CPC และ PPC แตกต่างกัน

PPC ย่อมาจาก Pay Per Click เป็นรูปแบบการจ่ายค่าโฆษณาในแต่ละครั้งที่มีคนคลิกเข้ามา ส่วน CPC คือจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละคลิก

CPC แตกต่างจาก CPA อย่างไร 

CPA ย่อมาจาก Cost Per Acquisition หรือ Cost Per Action คือ การคิดค่าโฆษณาต่อหนึ่งการกระทำ (Action) ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ กล่าวคือ เราจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเข้าไปในเว็บไซต์แล้วกระทำบางอย่างที่เป็น Conversion (การสั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ลงทะเบียน หรือดาวน์โหลดไฟล์) เท่านั้น แต่ถ้าหากลูกค้าคลิกเข้าชมโฆษณา แต่ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือทำอะไร เราก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา

ยกตัวอย่างเช่น เราลงทุนจำนวน 10,000 บาท เพื่อโฆษณาให้คนลงทะเบียน แต่มีคนมาลงทะเบียนทั้งหมด 50 คน นั่นหมายความว่า ค่า CPA หรือราคาต่อคนที่ลงทะเบียนอยู่ที่ 200 บาทนั่นเอง

สรุปได้ว่า CPC กับ CPA แตกต่างกันตรงที่ CPA เป็นการคิดค่าคลิกโฆษณาแล้วเกิดการกระทำบางอย่าง เช่น การสั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ลงทะเบียน เป็นต้น แต่ CPC คือการคิดเงิน เมื่อเกิดการคลิกบนโฆษณาเท่านั้น

CPC แตกต่างจาก CPM อย่างไร 

CPM ย่อมาจาก Cost Per Thousand Impressions โดยเราจะชำระเงินให้ทาง Google ก็ต่อเมื่อมีการแสดงโฆษณาให้ผู้คนเห็น ครบ 1,000 ครั้งเท่านั้น และค่าโฆษณาก็ขึ้นอยู่กับระบบการประมูลของ Google เท่านั้น โดยใช้สูตรคำนวณ คือ CPM = Cost x 1000 / Impression

ยกตัวอย่างเช่น เราลงทุนจำนวน 10,000 บาท จำนวนผลที่แสดงโฆษณา 50,000 ครั้ง ดังนั้น จำนวนเงินที่เราจะต้องจ่ายต่อการแสดงผลโฆษณา 1,000 ครั้ง หรือ ค่า CPM เท่ากับ 10,000 x 1000 / 50,000 เท่ากับ 200 บาท

สรุปได้ว่า CPC กับ CPM แตกต่างกันตรงที่ CPM เป็นค่าใช้จ่ายต่อจำนวนการแสดงของโฆษณา 1,000 ครั้ง โดยที่ไม่ว่าลูกค้าจะคลิกโฆษณาหรือไม่ก็ตาม แต่ CPC คือการคิดเงิน เมื่อเกิดการคลิกบนโฆษณาเท่านั้น ซึ่ง CPM เหมาะกับธุรกิจที่เน้นสร้างการรับรู้และจดจำภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลัก ไม่เน้นการขายอย่างเดียว


การประมูล CPC ด้วยตนเองคืออะไร (Cost per click bidding) 

การประมูล CPC

การประมูล CPC ด้วยตนเอง หรือ Manual CPC คือ การที่แบรนด์ตัดสินใจเลือกจำนวนเงินประมูลเป็นรายตัว สำหรับตัวเลือกที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น แบรนด์สามารถใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อการเสนอราคาต่อคลิกแทน


การกำหนด CPC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพราะ CPC คือ การคลิกโฆษณาธุรกิจของเราบนแพลตฟอร์ม ดังนั้น เราจึงควรที่จะทำให้ CPC เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้

  • ต้องเข้าใจผลิตภัณฑ์และบริการของเราว่าต้องการที่จะใช้โฆษณาในรูปแบบใด ให้มีความน่าสนใจและลูกค้าต้องการที่จะคลิกโฆษณา เพื่อเข้าชมและข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้น
  • ประเมินต้นทุนหรืองบประมาณที่ต้องใช้ ร่วมกับคู่แข่งทางธุรกิจว่า เราจำเป็นต้องให้โฆษณาของเราขึ้นเป็นอันดับบน เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นของเรามากที่สุด
  • คอยตรวจสอบค่า CPC และวิเคราะห์ร่วมกับการอุดหนุนของลูกค้า เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของ CPC ไม่ให้สูงเกินความจำเป็น

เมื่อกำหนดให้ CPC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะเกิดผลลัพธ์อย่างไร 

เมื่อเราปรับปรุงให้ CPC มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยหัวข้อข้างต้น ผลลัพธ์ที่จะตามมา คือ ธุรกิจของเราจะได้ Conversion (การสั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ลงทะเบียน หรือดาวน์โหลดไฟล์) ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น


CPC แพงเกินไป จะลดลงมาได้อย่างไร 

CPC แพงเกินไป

เมื่อค่า  CPC คือการคิดเงิน เมื่อเกิดการคลิกบนโฆษณาเท่านั้น และมีราคาที่แพงเกินไป เราก็สามารถแก้ปัญหาได้ ด้วย 2 วิธี คือ 

Quality Score 

เป็นการเพิ่มคะแนนคุณภาพ หรือ Quality Score โดยมาดูที่ปัจจัยภายในก่อนเป็นอันดับแรก คือ

  • รูปแบบโฆษณาของเรามีความน่าสนใจหรือไม่ หากไม่ เราก็ต้องออกแบบให้ลูกค้ามีความสนใจมากยิ่งขึ้น เน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ และต้องมั่นใจว่า โฆษณานั้น ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ
  • Ad Group ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการหรือไม่ โดยอาจจะต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ 

Keyword Research

เป็นการวิจัยคำสำคัญที่ใช้ในการค้นหาทางโซเชียลมีเดีย โดยจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เรามีคำสำคัญที่ดีพอที่จะทำให้ลูกค้าเจอโฆษณาของเรา เริ่มจาก

  • กำหนดเป้าหมายของลูกค้าว่าต้องการอะไร หรือกำลังค้นหาอะไร แล้วจับคู่กับข้อความโฆษณาของเรา
  • แบ่งโฆษณาออกเป็นหลาย ๆ แบบ โดยใช้คำสำคัญที่แตกต่างกัน เพื่อกระจายข้อมูลและสามารถจับคู่กับการค้นหาอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • จัดกลุ่มโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของเราที่มีความใกล้เคียงกัน โดยตั้งชื่อและใช้คำสำคัญเดียวกัน ให้ตรงกับคำที่ลูกค้าใช้บ่อย ๆ 

ข้อดี ข้อเสียของการทำ CPC 

เพราะการทำ CPC คือ การลงทุนทางด้านการโฆษณา ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราได้สรุปข้อมูลส่วนนี้ เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจว่า ควรจะทำ CPC ดีหรือไม่

ข้อดีของการทำ CPC

  • ค่า CPC สามารถบ่งชี้ถึงปริมาณของลูกค้าที่เข้าชมโฆษณาของเรา 
  • สามารถเข้าใจประสิทธิภาพของโฆษณา เพราะ CPC จะช่วยวัดว่า โฆษณาของเรานั้น มีความสนใจมากน้อยแค่ไหน และเราสามารถกลับมาปรับปรุงโฆษณาส่วนนี้ได้
  • การคลิกโฆษณาเป็นการแสดงถึงความตั้งใจเข้าชมและรับข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้นของลูกค้า ซึ่งถือเป็นข้อมูลพื้นฐานในขั้นตอนแรกที่สามารถนำมาวิเคราะห์ต่อยอดได้เป็นอย่างดี

ข้อเสียของการทำ CPC 

  • ต้นทุนค่อนข้างสูง ด้วย CPC คือ การคลิกโฆษณาเท่านั้น แต่ไม่ได้ชี้วัดว่า ลูกค้าจะเกิด Conversion ต่อ ดังนั้น เราต้องคอยสังเกตให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็น
  • มีราคาที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ด้วยอิงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นคะแนนคุณภาพ การเสนอราคาของคู่แข่ง การสนับสนุน และอื่น ๆ 
  • ลูกค้าอาจจะไม่สามารถรับรู้และจดจำภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ได้

คำถามที่พบบ่อย 

นอกจาก CPC ที่เราได้ทำความรู้จักกันไปแล้ว ก็ยังมีคำถามที่หลายคนพบบ่อย คือ ECPC แล้ว ECPC คืออะไร เรามาดูกัน

CPC ที่ปรับปรุงแล้ว (ECPC) คืออะไร

ECPC ย่อมาจาก Enhanced CPC เป็นการเสนอราคาที่จะปรับราคาให้สูงขึ้น ก็ต่อเมื่อเจอลูกค้าที่มีการคลิกโฆษณาที่มีแนวโน้มว่าจะเกิด Conversion ขึ้น ถือว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมในการบริหารค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเจอกับการคลิกโฆษณาที่มีโอกาสเกิด Conversion ต่ำหรือเจอกับคู่แข่งประเภทเดียวกันที่ลงทุนสูง


ข้อสรุป 

CPC คือ ต้นทุนต่อการที่ลูกค้าคลิกโฆษณาของเราใน 1 ครั้ง โดยเราจะต้องชำระเงินให้แก่แพลตฟอร์มที่เราลงโฆษณาไว้ ซึ่ง CPC จะช่วยชี้วัดการมองเห็นโฆษณาของเราได้ด้วย แต่ทั้งนี้ เราต้องพิจารณาบริบทธุรกิจของเราอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ สินค้า เป้าหมายในการโฆษณา และต้นทุน รวมถึงข้อดีและข้อเสียของ CPC เพื่อที่ธุรกิจของเราจะสามารถประสบความสำเร็จได้มากที่สุด