|

ผิวขาดน้ำคือ? ต่างจากผิวแห้งอย่างไร? พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหา

ปัญหาผิวขาดน้ำจะหมดไป ถ้าเรารู้ถึงความแตกต่างระหว่างผิวขาดน้ำ และผิวแห้ง แล้วพยายาค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิว และหาวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงจุด

ผิวแห้ง : เป็นสภาพผิวส่วนบุคคลที่ติดตัวมาแต่เกิด  ลักษณะความมันบนผิวหน้าเท่าเดิม ไม่เพิ่ม มีแต่แนวโน้มจะลดลง ผิวแห้ง หมายถึง ผิวที่ขาดน้ำมันเคลือบผิวด้านบน เนื่องมาจากมีต่อมน้ำมันใต้ผิวน้อย จึงผลิตน้ำมันได้น้อย ทำให้สูญเสียน้ำใต้ผิวได้ง่าย

ผิวขาดน้ำ :  เป็นสภาวะที่สามารถเกิดกับผิวแห้ง หรือ ผิวมันก็ได้ มีอาการผิวสาก ผิวเป็นขุย หรือ ผิวแตกมีสภาพผิวที่ทั้งแห้งและมันในเวลาเดียวกัน มีสภาพอ่อนล้า ดูหมองคล้ำไม่สดใส เห็นริ้วรอยได้ชัดเจนเนื่องจากสูญเสียคอลลาเจน ลูบแล้วรู้สึกสากผิวไม่นุ่มมือ ผิวขาดน้ำเป็นผิวที่มีน้ำใต้ผิวต่ำ วัดน้ำใต้ผิวได้<10% ซึ่งเราจะมาทำการศึกษาถึงสาเหตุ และ วิธีแก้ปัญหาได้ในลำดับต่อไป

ผิวขาดน้ำคืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด?

ผิวขาดน้ำ คือ ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือสูญเสียความชุ่มชื้น เป็นสภาวะผิวที่มีความชุ่มชื้นหรือมีน้ำใต้ผิวน้อย ซึ่งจะเกิดขึ้นชั่วขณะ หรือในช่วงที่ผิวได้รับความชุ่มชื้นไม่พอ ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป จึงทำให้รู้สึกว่า บางเวลาหน้าก็มันบางเวลาหน้าก็แห้ง หรือบางครั้งสังเกตได้ว่าหลังล้างหน้าผิวจะแห้ง แต่ระหว่างวันกลับมีผิวหน้ามันเยิ้มผิดปกติ ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำมักมีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวไม่อิ่มฟู เห็นริ้วรอยชัด แต่งหน้าไม่ติดทน สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ผิวขาดน้ำนั้นเป็นอาการที่เกิดได้ทุกช่วงฤดู และสามารถเกิดได้กับผิวทุกประเภท ไม่ว่าจะผิวผสม ผิวมัน หรือผิวแห้ง ถ้าเกิดกับคนผิวแห้งจะเรียกว่า ผิวแห้งขาดน้ำ ถ้าเกิดกับคนผิวมัน จะเรียกว่าผิวมันขาดน้ำ

สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำมีอยู่หลากหลาย เช่น

  • ปัจจัยภายใน ได้แก่ โรคทางพันธุกรรม เช่นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ หรือ อายุมากขึ้น ทำให้รักษาน้ำไว้ที่ผิวหนังไม่ได้ดี
  • ปัจจัยภายนอก ได้แก่ สารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดชนิดรุนแรง หรือ สภาพอากาศ เช่น อากาศหนาว ความชื้นต่ำ ทำให้สูญเสียน้ำจากผิวหนังมากขึ้น หรือ พฤติกรรมเคยชิน เช่น ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือ ออกแดดประจำโดยไม่ป้องกันด้วยครีมกันแดด

ผิวมันขาดน้ำ ต่างจาก ผิวแห้งขาดน้ำอย่างไร

นอกเหนือจากปัญหาจุดด่างดำ ความหมองคล้ำนั้น ผิวมันขาดน้ำ ก็เป็นปัญหาสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เรามาเรียนรู้ถึงลักษณะ และวิธีแก้ปัญหากัน

ผิวมันขาดน้ำ

ผิวมันขาดน้ำ

ผิวมันขาดน้ำ จะเป็นลักษณะผิวที่มีน้ำมันอยู่บนใบหน้ามากแต่ก็มีความแห้งกร้าน ตึงผิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดเป็นริ้วรอยและความหมองคล้ำบนใบหน้ามาก มักมีสาเหตุมาจากการทำให้ความมันบนผิวหายไปมากและไม่ได้เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น ทำให้ต่อมไขมันเร่งสร้างน้ำมันขึ้นมาโดยที่รูขุมขนจะเริ่มขยายออก ทำให้ผิวมันกลายเป็น ผิวมันขาดน้ำรูขุมขนกว้าง สามารถเห็นได้ชัดเป็นพิเศษในบริเวณหน้าผาก จมูก และโหนกแก้ม โดยมากผิวมันขาดน้ำเกิดขึ้นจากการล้างหน้าบ่อยเกินไป  หรือการใช้โฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง หรือเป็นเพราะการกำจัดคราบความมันส่วนเกินแบบผิดวิธี เป็นต้น

ผิวแห้งขาดน้ำ

ผิวแห้งขาดน้ำ เป็นลักษณะผิวที่มีน้ำมันมาเคลือบอยู่บนผิวหน้า ซึ่งอาจจะมีความมันไม่มากเท่าผิวมันขาดน้ำ แต่จะมีอาการแห้งกร้าน ผิวแห้งหยาบ ผิวหลุดลอกเป็นขุย และผิวอักเสบแดงคันได้มากกว่าในผิวมันขาดน้ำ เป็นลักษณะผิวขาดความชุ่มชื้น

วิธีแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ

การดูแลรักษาผิวขาดน้ำ คือ เน้นเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เติมน้ำให้ผิวหน้า ไม่จำเป็นต้องมีส่วนประกอบของน้ำมัน แต่อาจจะมีส่วนประกอบที่เป็นความชุ่มชื้นที่ได้จากธรรมชาติ เช่น สาหร่ายทะเลน้ำลึก สารให้ความชุ่มชื้น เป็นต้น หลีกเลี่ยงการข้ดหน้าแบบรุนแรง

1.ทำความสะอาดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและคงความชุ่มชื้น

เนื่องจากเราต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝ่นละออง สิ่งสกปรก แบคทีเรียมาตลอดทั้งวัน เราจึงควรที่จะทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและคงความชุ่มชื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่เราจะแนะนำในที่นี้คือ Hydrabio H2O จาก Bioderma ซึ่งเหมาะกับผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึกแต่ไม่ทำร้ายผิวที่บอบบาง ช่วยผ่อนคลายและคืนความสมดุลให้ผิว ทำให้รู้สึกสดชื่นทันทีที่ใช้  ใข้ได้ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น โดยเทลงบนสำลีแผ่น โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำล้างซ้ำเพราะใช้นวัตกรรมไมเซลล่าวอเตอร์ที่ใช้ดึงความมัน เครื่องสำอาง สิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากผิวได้อย่างหมดจด ไม่ทำให้ผิวเสียสมดุลตามธรรมชาติ

มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันขาดน้ำ

2.ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้น

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีความสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ควรเลือกใช้ให้ตรงสภาพผิวของเรา เราจะขอแนะนำผลิตภัณฑ์มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี คือ Hydrabio Serum ของ Bioderma เป็นเซรั่มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งผ่านความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำจากเซลล์ผิว เพิ่มความแข็งแรงและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ เซรั่มตัวนี้เหมาะสำหรับผิวแห้ง – ผิวขาดน้ำ ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน  ใช้ทาได้ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น  หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วย Hydrabio H2O

ผิวขาดน้ำใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อะไรดี

3.ไม่ล้างหน้าบ่อยจนเกินไป

ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนเพื่อลดความมันบนใบหน้าวันละ 2 ครั้ง คือช่วงเช้า และช่วงก่อนนอน เพื่อเป็นการทำความสะอาดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ระหว่างวันออกไปอย่างหมดจด ทำให้หน้าสะอาด ลดความมันส่วนเกิน

ผิวมัน ขาดน้ำ

4.ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป

เป็นวิธีบำรุงรักษาที่ง่ายมาก ๆ และเห็นผลไวหากทำติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ คือดื่มน้ำให้ได้วันละ8-10 แก้ว หรือประมาณ 1.5-2.0 ลิตร จะช่วยให้ผิวใสเด้ง อิ่มน้ำมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ควรพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6-8 ชั่วโมง

ผิวขาดน้ำคือ

5.ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น

อีกผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น ก็คือ โทนเนอร์ ซึ่งเราขอแนะนำ Hydrabio Tonique จากBioderma ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จะช่วยเติมน้ำให้ผิว ที่อุดมไปด้วยกลีเซอรีน และ  Allantoin ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว ใช้ได้ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็นลงบนสำลีแผ่น และเช็ดเบาๆ ที่ผิวหน้าและรอบดวงตาหลังทำความสะอาดผิวด้วย Hydrabio H2O

โทนเนอร์สำหรับผิวขาดน้ำ