คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? รู้ได้อย่างไรว่าต้องเปลี่ยนแล้ว? ความรู้ดี ๆ ที่เหล่านักสูบไม่ควรพลาด

หากคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าไประยะหนึ่งแล้วเริ่มรู้สึกว่าทำไมรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มจืดจาง หรือบางลง และได้ลองแก้ไขโดยการเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าลงไปแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณว่าคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าของคุณเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนคอยล์
ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าการเปลี่ยนคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าต้องทำอย่างไร? คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? คอยล์podใช้ได้กี่วัน? ดูอย่างไรว่าหมดอายุแล้ว? ในบทความของเราได้รวบรวมเรื่องของการเปลี่ยนคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไว้อย่างครบถ้วนแล้ว
คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน ใช้ได้นานแค่ไหน?
คอยล์podใช้ได้กี่วัน ? คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? ถือเป็นคำถามกวนใจเหล่านักสูบแน่นอน โดยส่วนใหญ่คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าจะมีการไหม้หรือเสื่อมสภาพลงตามการใช้งาน
โดยส่วนใหญ่แล้วระยะการใช้งานคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 วัน แต่ถ้าใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงจะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าได้ถึง 1 – 2 สัปดาห์เลยทีเดียว
ส่วนในเรื่องของการเปลี่ยนคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าแนะนำว่าควรทำการเปลี่ยนก่อนที่จะหมดอายุ เพราะถ้าคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไหม้แล้ว อาจทำให้รสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนไปได้
คอยล์หมดอายุ รู้ได้อย่างไร? มีอะไรบ่งบอกได้บ้าง?
คงมีหลายคนไม่น้อยเลยที่ไม่ทราบว่าคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าของตนเองหมดอายุแล้ว โดยในหัวข้อนี้เราจะมาบอกวิธีการสังเกตคอยล์หมดอายุกันว่าควรดูอย่างไร
1. มีกลิ่นเหม็นไหม้
คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? ปกติแล้วคือ 3-5 วัน แต่หากคุณเริ่มได้กลิ่นไหม้ ๆ ในขณะที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ อาจหมายถึงคอยไหม้ หรือคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าหมดอายุแล้ว หากต้องการให้บุหรี่ไฟฟ้าของคุณมีกลิ่นหอมดั่งเดิม ควรรีบเปลี่ยนคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าในทันทีค่ะ
2. รสชาติน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจางลง และควันบุหรี่ไฟฟ้าน้อยลง
คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำให้เกิดควัน และยังช่วยให้รับรสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้อีกด้วย หากคุณเริ่มมีความรู้สึกว่ารสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจางลง และควันน้อยลง แสดงว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าแล้วค่ะ
3. สีของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้มขึ้น
คอยไหม้ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีสีที่เข้มขึ้นได้ ดังนั้นหากอยากทราบว่าถึงเวลาเปลี่ยนคอยล์แล้วหรือยัง การดูสีของน้ำยาไฟฟ้าก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
ปัจจัยอะไรบ้าง ส่งผลทำให้คอยล์หมดอายุไวขึ้น?
ในหัวข้อก่อนหน้านี้หลายคนคงได้คำตอบของคำถามคอยล์podใช้ได้กี่วัน หรือคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วันกันไปแล้ว แต่พวกคุณสงสัยกันหรือไม่คะว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าหมดอายุไวขึ้น ถ้ายังไม่ทราบ เราจะมาอธิบายให้คุณฟังค่ะ
1. ประเภทน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารสหวาน เป็นอีกหนึ่งรสที่หลายคนชื่นชอบ เพราะสูบง่ายและมีรสสัมผัสที่ดี แต่เนื่องจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารสหวาน มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมหลัก เมื่อน้ำตาลโดนความร้อน จะทำให้น้ำยาและคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไหม้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าหมดอายุไวขึ้นนั่นเอง
2. จำนวนการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ในทุกครั้งที่คุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้เกิดความร้อน โดยความร้อนนี้จะถูกส่งไปยังน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไหม้ ดังนั้นยิ่งสูบสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากเท่าไหร่ คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าก็จะทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าเสื่อมสภาพไวมากขึ้นค่ะ
3. ระยะเวลาในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ในกรณีของบุหรี่ไฟฟ้าแบบ pod นั้นจะไม่เหมาะกับการนำมาสูบนาน ๆ เพราะจะทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าทำงานหนักและไหม้ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คอยล์หมดอายุไวขึ้นค่ะ
4. ระดับ PG/VG
Propylene Glycol (PG) คือ ระดับที่ใช้บ่งบอกการเก็บรสชาติน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ส่วน Vegetable Glycerin (VG) คือระดับที่ใช้บ่งบอกการให้ความหวานที่ได้จากพืช
ถ้าในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีระดับ VG สูง แสดงว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความหวานและความข้นหนืดมาก ซึ่งส่งผลให้สร้างไอน้ำได้ยากและต้องใช้ความร้อนมากกว่าเดิม โดยเมื่อใช้ความร้อนมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือคอยล์เสื่อมสภาพลง เนื่องจากคอยล์ไหม้นั่นเอง
แชร์วิธีถนอมอายุคอยล์ให้ใช้ได้นานขึ้น ที่นักสูบทั้งหลายต้องถูกใจ
คอยล์หมดอายุรู้ได้อย่างไร? คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? ปัจจัยที่ทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าเสื่อมไวคืออะไร? 3 คำถามนี้ถือว่าเป็นคำถามที่มีผู้อยากรู้เป็นจำนวนมากซึ่งเราก็ได้ให้คำตอบไปหมดแล้ว
แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้เช่นกัน นั่นคือ วิธีการยืดอายุการใช้งานคอยล์บุหรี่ไฟฟ้า ทำอย่างไรได้บ้าง? โดยถ้าคุณอยากทราบคำตอบแล้ว หาได้จากหัวข้อนี้เลยค่ะ
1. ดูแลความสะอาดของหัวแทงค์ให้ดี
สำหรับวิธีล้างคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ถอดคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าออกมา จากนั้นเช็ดทำความสะอาดหัวแทงค์ให้สะอาด แล้วจึงนำไดร์มาเป่าเพื่อทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าแห้งสนิท หลังจากนั้นนำกลับไปติดตั้งที่เดิม
2. เลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ทำให้เกิดการเผาไหม้สูงเกินไป
อย่างที่ทราบกันไปในหัวข้อก่อนหน้านี้แล้วว่า หากมีค่า VG สูงเกินไปจะทำให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าไหม้เร็วขึ้นและไหม้ได้ หากเป็นเช่นนี้คอยล์ไหม้แก้ยังไงดี
เราขอตอบเลยว่าวิธีการแก้นั้นง่ายมากค่ะ แค่เลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีค่า VG หรือมีปริมาณที่สูงเกินไป ก็สามารถช่วยให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าทำงานน้อยลง รวมถึงลดการเผาไหม้ลงด้วยค่ะ
3. ไม่เปลี่ยนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหลายชนิด
สำหรับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตัว ไม่ควรเปลี่ยนน้ำยาไฟฟ้าหลายชนิด เพราะสามารถส่งผลให้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าเกิดความร้อนสูงกว่าปกติ ดังนั้นการใช้บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตัว ควรใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเพียงแค่ชนิดเดียวนะคะ
4. ไม่ควรแช่คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าทิ้งไว้ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบข้ามวัน
เนื่องจากคราบจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะไปเกาะที่คอยล์บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้คอยล์ทำงานหนักแล้วเสื่อมสภาพไวมากขึ้น
สรุป

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วัน? หรือคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าว่าใช้แบบที่มีคุณภาพดีหรือไม่ เลือกใช้อะตอมบุหรี่ไฟฟ้าที่ดีที่สุดหรือไม่ และจำนวนการสูบ
อีกทั้งควรรีบเปลี่ยนคอยล์เมื่อเริ่มได้กลิ่นไหม้ รสชาติบางลง หรือสีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้มขึ้น ทั้งนี้คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้กี่วันก็ตาม แต่ถ้าคุณต้องการใช้คอยล์ใช้งานได้นาน เพียงทำตามคำแนะนำของเราคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าของคุณจะสามารถใช้ได้ยาวนานกว่าปกติแน่นอนค่ะ