|

7 เคล็ดลับถนอมสายตา วิธีดูแลดวงตา ฉบับพนักงานออฟฟิศ

ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทในชีวิตของเราเป็นอย่างมาก การทำงาน การเรียน หรือการทำธุรกรรมต่างๆ ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟนอยู่เสมอๆ ทำให้ดวงตาทำงานหนักมาก ฉะนั้นต้องมีวิธีถนอมสายตา โดยเฉพาะการทำงานของพนักงานออฟฟิศ ที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้องใช้สายตาเพ่งมองหน้าจออยู่แทบจะตลอดเวลา 

นานวันเข้าก็เริ่มที่จะเกิดปัญหาทางด้านสายตา เช่น อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง ตาล้า สายตาสั้น หรือผลข้างเคียงอื่นๆ วันนี้เราจะมาดูกันว่า วิธีดูแลถนอมดวงตา วิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์ วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์ วิธีถนอมสายตาสั้น ต้องทำอย่างไร จึงจะให้ดวงตาคู่นี้ของเราอยู่กับเราได้นานๆไม่มีปัญหา หรือโรคเกี่ยวกับตากันค่ะ


ถนอมสายตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ยั่งยืน

ดวงตา เป็นอวัยวะสำคัญที่มีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ประมาณกันว่า 70 – 80 % ของสิ่งที่เรารับรู้ และเรียนรู้ได้มาจากการมองเห็น เราจึงจำเป็นต้องถนอมสายตาเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน ดวงตาจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตของเราเป็นอย่างมาก การถนอมสายตาที่ถูกวิธีช่วยให้ดวงตาของเราใช้งานได้ปกติ และไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลา วิธีดูแลถนอมดวงตา วิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์ วิธีถนอมสายตาจาก

คอมพิวเตอร์ วิธีถนอมสายตาสั้น ล้วนมีประโยชน์ในการรักษาดวงตาของเราทั้งนั้น แล้วเราจะมีวิธีถนอมสายตาที่กล่าวมานี้ต้องทำอย่างไรบ้าง? วันนี้เรามีคำตอบค่ะ


โรคทางตาที่มักพบในพนักงานออฟฟิศ

โรคทางตาที่มักพบในพนักงานออฟฟิศ

แน่นอนว่าพนักงานออฟฟิศจำเป็นต้องใช้สายตาในการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะแสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์ จะทำลายเซลล์ผิวกระจกตาและเยื่อบุตา 

วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์จึงจำเป็นอย่างมาก หากไม่มีวิธีถนอมสายตาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับดวงตาตามมาและมักพบในผู้ที่ใช้สายตาหนัก มาดูกันว่ามีโรคที่อาจเกิดขึ้นมีอะไรกันบ้าง และมีอาการอย่างไร

1. โรควุ้นในตาเสื่อม

ภาวะวุ้นตาเสื่อม เป็นได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น และอาจจะเสื่อมเร็วกว่าปกติในผู้ที่มีสายตาสั้นมาก หรือเคยได้รับอุบัติเหตุบริเวณดวงตา วุ้นตาที่เสื่อมจะเหลวลง หดตัว และขุ่นขึ้นเมื่อแสงผ่านวุ้นตาที่เสื่อม จะหักเหทำให้เป็นเงาดำๆจะเห็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมาโดยเฉพาะเวลากลอกตา มองที่ผนังสีขาว หรือท้องฟ้า

สาเหตุเกิดจากอยู่หน้าจอทั้งวัน ไม่ว่าจะเล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ ดูหนัง เล่นเกม ต่างก็ทำผ่านหน้าจอกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะผ่านโทรศัพท์ ผ่านโทรทัศน์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณสายตาเสียจากการมองจอ เช่น การมองตัวอักษรที่อยู่บนจอ มองแป้นพิมพ์ตัวอักษร ที่ต้องโฟกัสบ่อยๆ จึงทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเป็นสาเหตุให้สายตาเสีย

2. โรคสายตาสั้น เอียง

สายตาสั้น เป็นภาวะที่กระจกตาโค้งเกินไป หรือกระบอกตายาวเกินไป ทำให้แสงถูกหักเหและมาโฟกัสที่ด้านหน้าของจอประสาทตา แทนที่จะโฟกัสลงบนจอประสาทตา ทำให้ภาพขาดความคมชัด ผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นจะมองเห็นได้ดีที่ระยะใกล้ๆ ส่วนการมองเห็นระยะไกลจะพร่ามัว ต้องหรี่ตา หรือต้องเพ่งมากขึ้น

สายตาเอียง เป็นภาวะที่กระจกตามีความโค้งไม่เท่ากันในแต่ละแกน ทำให้เกิดจุดโฟกัส 2 จุด ไม่รวมเป็นภาพเดียว มีจุดหนึ่งโฟกัสที่ก่อนหรือหลังจอประสาทตา ผู้ที่มีภาวะสายตาเอียงจะมีการมองเห็นพร่ามัวทั้งระยะไกลและใกล้

3. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม

เป็นอาการที่มักจะเกิดกับคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินสองชั่วโมงขึ้นไป ก็จะเริ่มมีอาการปวดตา แสบตา ตามัวและบ่อยครั้งมักจะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย พบได้ถึงร้อยละ 75 ของบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์

โดยปกติแล้วเราทุกคนมักจะต้องกะพริบตาอยู่สม่ำเสมอเป็นการเกลี่ยน้ำตาให้ดวงตาของเราไม่แห้ง วิธีถนอมสายตาคือ หากเราใช้สายตาในการจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จึงควรกะพริบตาให้ถี่ขึ้น จึงจะลดอาการแสบตา ตาแห้ง รู้สึกฝืดๆในตาได้

4. โรคจอประสาทตาเสื่อม

เป็นโรคที่มีความผิดปกติ เกิดขึ้นในบริเวณจุดศูนย์กลางรับภาพของจอประสาทตา มักจะพบได้มากในผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จึงเรียกว่า Ageralsted macular degeneration (AMD) ในผู้ป่วยบางราย จะมีอาการเกิดขึ้นอย่างช้าๆ จึงทำให้ผู้ป่วยไม่ทันได้สังเกตเห็น และบางรายมีอาการขึ้นเกิดอย่างรวดเร็ว ทำให้สูญเสียการมองเห็นโดยเฉพาะภาพตรงกลาง แต่ยังสามารถมองเห็นทางด้านขอบข้างของภาพได้อยู่ 

ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ยังคงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่อาจจะทำกิจกรรมบางอย่างไม่ได้ เช่น อ่านหนังสือ เย็บผ้า เป็นต้น โรคจอประสาทตาเสื่อมนี้ สามารถเกิดได้หลายปัจจัย เช่น คนที่มีสายตาสั้นมากๆ หรือคนที่เป็นโรคติดเชื้อบางอย่าง แต่สาเหตุส่วนใหญ่มักพบกลุ่มคนวัยผู้สูงอายุเชื่อว่าเป็นการเสื่อมสภาพของร่างกาย หรือเรียกว่า Aging เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของโรคจอประสาทตาเสื่อม แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร


แนะนำ 7 วิธีถนอมสายตา

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน จนเริ่มมีอาการบางอย่างข้างต้นแล้ว วันนี้เรามาดูวิธีถนอมสายตา ทำให้สายตาเรารู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ดังคำแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ

1. ถนอมสายตาโดยการกะพริบตาให้ถี่ขึ้น

วิธีถนอมสายตา

อาการตาแห้งเกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20 – 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาที การพริบตาให้ถี่ขึ้นจึงเป็นวิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์หรือ วิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์ อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

2. จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม

จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม

ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม. จัดระดับจอภาพให้อยู่ในระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้วจากพื้นหรือโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป

3. วิธีถนอมสายตาโดยการปรับความสว่างของห้อง

วิธีถนอมสายตาโดยการปรับความสว่างของห้อง

จัดให้บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ การจัดแสงถนอมสายตาเพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ และควรปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่างควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านเข้ามาได้เพียงบางส่วน ไม่เข้าตาโดยตรง และหลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้านสะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า

4. วิธีถนอมสายตาโดยการแก้ปัญหาเรื่อง “ขนาด”

วิธีถนอมสายตาโดยการแก้ปัญหา

ความละเอียดของหน้าจอ หรือ screen resolution เป็นสิ่งที่ทำให้หน้าจอมีความละเอียดของภาพหรือ ตัวหนังสือแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรปรับค่าความละเอียดให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ ไม่ควรเล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ขนาดของภาพและตัวหนังสือผิดเพี้ยนไปจากความจริง

5. เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์

เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์

ปัจจุบันมีแว่นตาที่ผลิตมาเพื่อกรองแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะ เลนส์แว่นเคลือบด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันรังสีจากหน้าจอได้ดี และสามารถนำมาตัดเป็นแว่นสายตาสำหรับคนสายตาสั้น-ยาว ดังนั้นหากต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน ควรเลือกใช้แว่นประเภทนี้ และใช้เลนส์สีเขียวอ่อนที่จะช่วยให้รู้สึกสบายตา และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ

6. วิธีถนอมสายตาโดยการพักสายตา

วิธีถนอมสายตาโดยการพักสายตา

สำหรับคนที่ติดหน้าจอโทรศัพท์ ทุกๆ ชั่วโมงควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง โดยวิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์ควรละสายตาจากหน้าจอ แล้วมองออกไปในระยะไกล สัก 10 – 20 วินาที แล้วกลับมามองในระยะใกล้ ทำสลับกันไปหลายๆ ครั้ง จะช่วยให้คลายสายตาจากความเมื่อยล้าได้ดี

7. ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าง

ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าง

สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องอุดอู้อยู่ที่เดิมเป็นเวลานานๆ ทำให้สายตาเราชินกับระดับแสงเดิมๆ และรู้สึกตึงเครียดอย่างไม่รู้ตัว วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์ เราควรละจากหน้าจอคอมแล้วลุกออกไปเดินสูดอากาศข้างนอกบ้างสัก 15 นาที เพราะจะทำให้สายตาได้สัมผัสกับระดับแสงที่แตกต่างจากในห้อง ทำให้สมองและสายตาได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้า ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกมีพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาฉบับง่าย

วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาฉบับง่าย

การใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานานๆทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักส่งผลให้เกิดอาการเพลียตา ตาล้า หรือปวดตาและวิธีถนอมสายตาโดยการบริหารกล้ามเนื้อตา เป็นการออกกำลังเพื่อช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาทำให้กล้ามเนื้อตาเข้าสู่สภาพปกติซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

  1.  ใช้มือข้างที่ถนัดถือไฟฉายหรือดินสอ แล้วยืดแขนออกไปจนสุด โดยให้ไฟฉายหรือดินสออยู่กึ่งกลางดั้งจมูก
  2. ใช้ตาสองข้างเพ่งตรงไปที่ดวงไฟหรือปลายดินสอ จะเห็นดวงไฟหรือปลายดินสอเพียงภาพเดียว ไม่มีภาพซ้อนหากมองเห็นไฟเป็นภาพซ้อน ให้หลับตาสองข้างแล้วลืมตามองไปอีกครั้ง พยายามมองให้เห็นไฟเป็น 1 ดวง
  3. เคลื่อนมือเข้ามาใกล้ตาอย่างช้าๆ เมื่อไรที่เห็นดวงไฟหรือปลายดินสอแยกเป็นภาพซ้อน หรือพร่ามัว มองไม่ชัด ให้ถอยมือกลับไปตั้งต้นใหม่ให้ชัดเจนในระยะสุดแขนแล้วเคลื่อนเข้ามาประมาณ 20 ครั้ง แล้วหยุดฝึก

ตรวจสายตาเป็นประจำ ช่วยถนอมดูแลสายตา

ไม่ว่าคุณจะมีปัญหากับดวงตา สายตา หรือการมองเห็นที่ผิดปกติไป การตรวจสายตาเป็นประจำ ช่วยถนอมดูแลสายตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ตรงจุด ก่อนที่โรคหรืออาการจะลุกลามจนยากเกินแก้


ข้อสรุป

สรุปการถนอมสายตาเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถยืดอายุของการเสื่อของดวงตา สำหรับวิธีดูแลถนอมดวงตาข้างต้น คงช่วยให้ผู้ที่ติดหน้าจอ หรือผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอได้มากเลยทีเดียว แต่หากท่านมีอาการโรคทางตา แต่ก็ยังไม่แน่ชัด ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ตรงจุด