|

10 อาหารกระตุ้นไมเกรน รู้ไว้ เลี่ยงอาการปวดหัวเรื้อรัง

ประเภทของอาหารกระตุ้นไมเกรนนั้นมีด้วยกันหลากหลายชนิด บางชนิดอาจปะปนอยู่ในอาหารที่เราชอบรับประทานเป็นประจำโดยที่เราไม่รู้ตัวก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะด้วยความที่เราไม่รู้ จึงทำให้เราได้รับสารบางอย่างที่อยู่ในอาหาร ไปกระตุ้นเส้นประสาทหรือทำให้หลอดเลือดในสมองเกิดการขยายตัว ส่งผลให้อาการปวดหัวกำเริบขึ้นได้ 
ทางที่ดีเราควรที่จะต้องรู้ว่าผู้ที่ป่วยเป็นไมเกรนห้ามกินอะไรบ้าง หากทานอาหารกระตุ้นไมเกรนจะส่งผลยังไงต่อร่างกาย มีสารประเภทไหนที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการปวดกำเริบ ลองไปอ่านกันเถอะ


โรคไมเกรน..อาการปวดหัวรบกวนจิตใจ

โรคไมเกรน เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นหูกับชื่อนี้ดี โรคไมเกรนเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น ส่งผลทำให้หลอดเลือดในสมองมีการบีบตัว จนเกิดอาการปวดหัวตุ๊บๆ ตาพร่ามัว เห็นแสงวูบวาบ เห็นภาพเบลอ บางรายอาจมีอาการเวียนหน้าและเวียนหัวจนถึงขั้นอาเจียนออกมา 

ลักษณะการปวดจะปวดตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรงมาก โรคนี้จะพบมากในผู้หญิง สาเหตุมักจะเกิดมาจากความเครียดสระสม นอนหลับไม่เพียงพอ หรือรับประทานอาหารประเภทอาหารกระตุ้นไมเกรนมากเกินไปรวมไปถึงการแพ้กลิ่นและอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจ้าเป็นต้น


อาหารส่งผลต่อไมเกรนอย่างไร

หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่าสาเหตุของการปวดไมเกรนนั้นสามารถเกิดได้จากการรับประทานอาหาร  ในอาหารบางชนิดที่เราเลือกรับประทานไปแล้วนั้นจะมีสารบางชนิดที่สามารถไปกระตุ้น ให้อาการปวดหัวไมเกรนกำเริบได้ 

โดยจะพบได้ในอาหารประเภทของหมักดอง เครื่องดื่ม ชา กาแฟ เตรื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทางที่ดีควรเหลียกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรนให้ได้มากที่สุด จึงจะส่งผลดีต้อผู้ที่ป่วยเป็นอย่างมาก


สารอาหารที่กระตุ้นไมเกรน

  • สารไทรามีน เป็นสารที่สามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธียืดอายุผ่านการหมักดองเมื่อกินอาหารที่มีสารไทรามีนก็จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงได้ 
  • ผงชูรส ผู้ที่รับประทานผงชูรสมากจนเกินไปจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเพราะมีการกระตุ้นให้มีการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิดสารชนิดนี้จะไปกระตุ้นให้เซลล์ของผนังหลอดเลือดหลั่งศาลไนตริกอกไซด์ มีส่วนทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัวนำไปสู่อาการปวดหัวได้
  • กาเฟอีน หากเรารับประทานกาเฟอินที่อยู่ในปริมาณที่มากเกินไปจะมีผลทำให้ร่างกายตื่นตัว หากดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนมากกว่า 300 มก. จะทำให้เกิดอาการวิตกกังวลนอนไม่หลับกระสับกระส่ายหงุดหงิดซึ่งเป็นส่วนที่ก่อให้เกิดการปวดหัวไมเกรนฉะนั้นผู้ที่เป็นไมเกรนควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟให้มากที่ สุด 
  • สารไนเตรต สารชนิดนี้เป็นสารกันบูดที่ใช้ในการถนอมอาหารประเภทอาหารรมควันซึ่งก็ได้แก่ไส้กรอก แฮมรมควัน ปลารมควันหรืออาหารหมักดอง เมื่อรับประทานอาหารที่มีสารชนิดนี้เข้าไปอาจจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ในทันที สารชนิดนี้มีส่วนไปกระตุ้นศาลไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว ในบางรายที่มีความไวต่อสารชนิดนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของโซเดียมไนไตรท์ โซเดียมไนเตรตโพแทสเซียมไนเตรต โพแทสเซียม ไนไตรท์
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้บ่อยหากใครที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะทำให้มีอาการปวดศีรษะภายในไม่กี่ชั่วโมง สารเหล่านั้นประกอบด้วย ซัลไฟท์ ฮีสตามีน ฟลาโวนอยส์ พบได้ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะไวน์แดง หลังรับประทานอาการที่จะพบได้บ่อยก็คือคลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียน หงุดหงิดและแน่นอนส่งผลให้ปวดหัวตามมา อาการปวดหัวจะหายไปก็ต่อเมื่อระดับแอลกอฮอล์ในเลือดนั้นลดลง

10 อาหารกระตุ้นไมเกรน มีอะไรบ้าง

1. ชา กาแฟ

ชา กาแฟ

อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ชาและกาแฟมีส่วนผสมของกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญหากใครที่ดื่มชากาแฟที่มีปริมาณของกาเฟอีนมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายนอนไม่หลับและแน่นอนอาการปวดหัวก็จะตามมาอีกด้วย

2. ผลไม้ตระกูลซิตรัส

ผลไม้ตระกูลซิตรัส หรือจะเรียกง่ายๆว่าผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว เลมอน ผลไม้ตระกูลนี้มีสารเช่นเดียวกันกับกล้วยนั่นก็คือสารไทรามีนและฮิสตามีน

3. ช็อคโกแลต

ในช็อกโกแลตเป็นขนมที่มีส่วนผสมของเนยนมโดยเฉพาะน้ำตาลวัตถุดิบหลักที่เพิ่มความหวานให้กับช็อกโกแลตสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนควรที่จะหลีกเลี่ยงการกินช็อกโกแลต ถึงแม้ว่ายังจะไม่มีผลวิจัยที่แน่ชัดออกมาก็ตามว่าการกินช็อกโกแลตจะทำให้ปวดหัวจริงทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงไว้จะดีกว่า

4. ชีสและเนยแข็ง

ชีสและเนยแข็ง

ชีสและเนยแข็งส่วนประกอบของอาหารที่หลายคนชอบรับประทานเป็นอย่างมากให้ทั้งความหอมความยืดและความอร่อยแต่รู้อะไรไหมชีสและเนยแข็งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงได้เพราะมีส่วนประกอบของสารไทรามีน สารชนิดนี้มีส่วนที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการปวดหัวได้

5. อาหารที่มีโซเดียมสูง

อาหารที่มีโซเดียมสูง

การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงหรือจะเรียกง่ายๆคืออาหารที่มีรสเค็มหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของผงชูรสมากจนเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเพราะมีสารที่เรียกว่า โมโนโซเดียม กลูตาเมต ที่เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดหัว 

ส่วนอาหารที่มีรสเค็มจัดๆหรืออาหารที่มีโซเดียมสูงก็เป็นตัวแปรในการกระตุ้นไมเกรนได้ ต้นเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด ทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูง อาการไมเกรนจึงกำเริบ

6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ในการเลือกดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนเมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณมากก็จะทำให้เกิดอาการมึนเมาซึ่งอาการมึนเมานั้นก็เกิดจากสารไทรามีนที่มีส่วนเข้าไปช่วยลดระดับสารเซโรโทนินในสมองจึงทำให้เกิดอาการปวดหัวรุนแรงตามมาได้

7. อาหารที่ประกอบไปด้วยยีสต์

อาหารที่ประกอบไปด้วยยีสต์

พิซซ่าหรือขนมปังอาหารสุดโปรดของใครหลายๆคนและแน่นอนส่วนประกอบหลักที่ทำให้เกิดเป็นพิซซ่าและขนมปังขึ้นมาได้นั่นก็คือยีสต์ ยีสต์ตัวการที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนมีสารชนิดเดียวกันกับชีสและเนยแข็งนั่นก็คือสารไทรามีนตัวกระตุ้นอย่างดีต่ออาการปวดหัวกำเริบ

8.เนื้อสัตว์แปรรูป

เนื้อสัตว์แปรรูป

สารไนเตรทสารชนิดนี้ที่มีส่วนทำให้เกิดอาการปวดหัวเป็นสารที่มักพบในอาหารประเภทที่ผ่านการแปรรูปมาแล้วอย่างเช่น แฮม ฮอทด็อก ไส้กรอกรมควัน แฮมรมควัน หากผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนชอบรับประทานอาหารเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ให้ได้ที่สุดจึงจะดีต่อสุขภาพของตัวเองและไม่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวกำเริบ

9. ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง

ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง

ถั่วเหลืองเป็นอีกหนึ่งของชนิดอาหารต้องห้ามสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนเพราะในถั่วเหลืองมีสารประกอบมากมายที่มีผลทำให้การปวดหัวไมเกรนกำเริบได้เช่น สาร Glutamic  acid สารโปรตีนที่ช่วยเรียกกลุ่ม Biogenie amine  สาร isoflavone สารเหล่านี้ล้วนเป็นสารที่มีอยู่ในถั่วเหลืองและยังทำหน้าที่ส่งต่อไปสู่การกระตุ้นการหลั่งของสาร Glutamate ทำให้สมองไวต่อการปวดหัวไมเกรนได้

10. กล้วย

อาหารกระตุ้นไมเกรน

รู้หรือไม่คนป่วยไมเกรนห้ามกินกล้วยสำหรับใครหลายๆคนคนกล้วยคือผลไม้ที่มีประโยชน์มีกากใยสูง แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนนั้นถือว่าเป็นผลไม้ต้องห้ามเพราะในตัวของกล้วยมีสารอยู่ 1 ชนิดที่ส่งผลต่อผู้ป่วยไมเกรนนั่นก็คือ สารไทรามีน สารต้องห้ามของผู้ป่วยไมเกรนนั่นเอง


ปรับพฤติกรรมห่างไกลไมเกรน

ปรับพฤติกรรมห่างไกลไมเกรน

กินอาหารผักใบเขียว

เพราะการเลือกรับประทานผักใบเขียว ที่เป็นแหล่งของแมกนีเซียมมีกรดโฟลิกวิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 สารเหล่านี้ที่อยู่ในผักใบเขียวจะช่วยลดอาการปวดหัวรวมถึงป้องกันการปวดหัวไมเกรนได้อย่างดี

กินอาหารมื้อเล็ก ๆ แทน

สำหรับผู้ที่ป่วยไมเกรนสามารถเลือกรับประทานอาหารมื้อเล็กๆแทนได้เพราะจะเป็นการช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนที่เกิดจากความหิวและช่วยลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหารมื้อหนักๆที่อาจจะมีสารกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ที่อาจจะมีสารกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้

ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ 

การดื่มน้ำไม่เพียงพอมีผลต่อการกระตุ้นทำให้ปวดหัวไมเกรนผู้ป่วยควรเลือกดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื่อป้องกันอาการไมเกรนกำเริบ


การรักษาไมเกรนทางเลือกอื่น

การรักษาไมเกรนเบื้องต้น

การรักษาไมเกรนเบื้องต้น

การรักษาไมเกรนเบื้องต้นผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะด้วยการประคบเย็นหรือประคบร้อนเพื่อทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาพักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายไม่เครียดจนเกินไป

การรักษาไมเกรนทางการแพทย์

การรักษาไมเกรนทางการแพทย์

การรักษาไมเกรนทางการแพทย์มีด้วยกันหลากหลายวิธีโดยวิธีหลักๆที่แพทย์จะเลือกใช้คือ

  • การให้ยามารับประทานเพื่อป้องกันการปวดหัวการ
  • ฉีดยาแก้ไมเกรน โดยการฉีดยาร่วมกันหลายชนิดเพื่อลดการปวด
  • การฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน เป็นอีก 1 วิธีที่แพทย์นำมาใช้รักษาเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวและยับยั้งปลายประสาทช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดหัวได้มากยิ่งขึ้น

ข้อสรุป

การหลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน คืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ป่วยไมเกรน โรคที่ก่อกวน รำคาญใจต่อใครหลายๆคน เพราะสารหลักที่จะพบได้มากที่สุดในอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเลยก็คือสารไทรามีน จะเห็นได้ว่าสาารชนิดนี้จะพบได้มากที่สุดสำหรับประเภทอาหารที่ควนรหลีกเลี่ยงของผู่ที่ป่วยเป็นไมเกรน 

ดังนั้นเพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะต่อสุขภาพของผู้ป่วย เช่น ทานผักใบเขียวให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมไปถึงไม่เครียดจนเกินไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เว็บไซต์ https://www.migrainethailand.com/