Hifu ที่ไหนดี? ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) คือ การใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งไปยังชั้นผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษา โดยลำแสงอัลตราซาวด์นั้นสามารถผ่านชั้นของเนื้อเยื่อได้โดยไม่เป็นอันตรายใดใด
ปัจจุบันมีการนำมาใช้ทางการแพทย์ด้านความงามเพื่อการยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียน ไม่มีการสร้างบาดแผลหรือรอยแผลเป็นบนใบหน้า ไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ และใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่าการรักษาประเภทอื่นๆ ทำให้ Hifu เป็นที่นิยมอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในทุกปี
แม้ว่า HIFU จะมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างน้อยกว่าการรักษาประเภทอื่นๆ ที่ให้ประสิทธิภาพในด้านเดียวกัน แต่การทำ HIFU เองก็มีหลากหลายแบบ หลากหลายประเภท ที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน รวมถึงการที่จะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการจำเป็นต้องทำ HIFU หลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ถ้าอย่างนั้นแล้วเราจะต้องเลือก HIFU อย่างไร? หรือเลือกทำ HIFU ที่ไหนดี? บทความนี้เราจะพาทุกท่านมาพูดคุยกัน เพื่อทำความรู้จักและให้คำแนะนำเกี่ยวกับ HIFU
สารบัญบทความ
Hifu มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร?
เนื่องจากราคาที่แตกต่างกันของ Hifu ในแต่ละคลินิก ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เหตุผลมาจากอะไรกันนะ? ถ้าอย่างนั้นแล้วต้องเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี? ซึ่งข้อแตกต่างนั้นเกิดมาจากเครื่องที่ใช้ในการทำ Hifu มีหลากหลายยี่ห้อ และมีแหล่งผลิตมาจากหลายประเทศ โดยปัจจุบันเครื่องที่สามารถเห็นได้ตามคลินิกทั่วไปมีดังนี้
แบ่งตามขนาดหัวยิงตามระดับความลึกของชั้นผิว
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm เหมาะสำหรับผิวหนังชั้นบน (Superficial Dermis) ที่อยู่ในระดับไม่ลึกมาก ช่วยเกี่ยวกับเรื่องริ้วรอย
- หัวยิงความลึก 3.0 mm เหมาะสำหรับผิวหนังชั้นไขมันหรือผิวชั้นกลาง (Deep Dermis) ช่วยลดไขมัน เซลลูไลท์ ลดความย่อนคล้อย กระชับผิวหนัง
- หัวยิงความลึก 4.5 mm เหมาะสำหรับผิวหนังชั้น SMAS ที่มีเนื้อเยื่อพังผืดที่คอยห่อหุ้มกล้ามเนื้อและคอลลาเจนแนวนอนที่เกาะเป็นเส้นใย ทำให้หน้ากระชับ ยกแก้ม เหนียง และลำคอ
แบ่งตามการเรียงตัวของหัวยิง
- Single Shot เรียงตัวเป็นจุด 1 จุด
- Line Cartridge เรียงตัวเป็นเส้นยาว 2.5 cm โดย 1 เส้นจะมีจุดขนาด 0.5-1 mm เรียงตัวกัน 15-25 จุด
แบ่งตามยี่ห้อ
การเลือกทำ Hifu ที่ไหนดีโดยดูจากยี่ห้อเครื่อง Hifu เองก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรพิจารณาเพราะเครื่อง Hifu ของจากแต่ละบริษัทก็ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ทำให้ผลลัธพ์แตกต่างกันไป ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมใช้ในประเทศไทยมีดังนี้
- Ulthera SPT เป็นเครื่องต้นแบบของเครื่อง Hifu ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ชนิดสูงกว่า Macrofocus ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าและมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่ายี่ห้ออื่นๆ มีหน้าจอที่แสดงภาพระดับความลึกในจุดที่ยิงลงไปตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนที่ชั้นไขมันน้อย ให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 1 ปี
- Ultraformer III ใช้พลังงานคลื่นชนิด MMFU (Microfocus and Macrofocus Ultrosound) สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ทุกระดับชั้นผิว ช่วยกระชับผิวหนังและสลายไขมัน ริ้วรอย ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 1 ปี โดยใช้เวลาในการเห็นผลประมาณ 3-4 เดือน มีพลังงานเสถียรและกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ มีเฉพาะหัวยิงแบบ Line Cartridge
- Lifthera ใช้เทคโนโลยี TDT (Thermal Diffusion Treatment) สามารถลงถึงชั้นใต้ผิวหนังอย่างชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ พลังงานเสถียร ทำให้ยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนได้
- Contlex ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ทำให้สามารถลงได้ถึงชั้น SMAS ได้ มีพลังงานเสถียร ช่วยยกกระชับ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย มีเฉพาะหัวยิงแบบ Line Cartridge
- Sygmalift ใช้พลังงานแบบ Fractional Beam ทำให้ลงลึกได้ถึงชั้นผิวหนัง SMAS ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและกระชับความหย่อนคล้อย มีอาการเจ็บน้อย
จากข้อมูลขั้นต้นนั้นจะเห็นว่าเครื่อง Ulthera SPT เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ทำให้คลีนิกที่ใช้เครื่องประเภทนี้ มีค่ารักษาสูงกว่าประเภทอื่นๆ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ Hifu, จำนวน shot/line ต่อคอร์ส โดยราคาเฉพาะจุดจะมีราคาระหว่าง 4,000-8,000 บาท และทั่วใบหน้าจะมีราคาประมาณ 30,000-70,000 บาท
เครื่องประเภทถัดมาที่เป็นที่นิยมในการใช้คือเครื่อง Ultraformer III ที่ให้ประสิทธิภาพดีด้วยเทคโนโลยีพลังงานคลื่นชนิด MMFU หรือเครื่อง Lifthera ที่มีเทคโนโลยีช่วยลดความเจ็บขณะทำ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการบวมแดงหลังทำได้ เครื่องสองประเภทนี้จะมีราคาต่อคอร์สที่ต่ำกว่า Ulthera SPT โดยเฉพาะจุดจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท และทั่วใบหน้าประมาณ 10,000-25,000 บาท
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี ควรพิจารณาเครื่องที่เหมาะสมและคอร์สที่ต้องการ ผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าใบหน้าของเรามีปัญหาที่ตรงไหน และควรรักษาแบบใดให้ตรงจุด เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
ทำ Hifu ทำไมไม่เห็นผล? อะไรคือตัวแปรและสาเหตุ
ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมทำไมทำ Hifu แล้วไม่เห็นผล? ต้องทำ Hifu ที่ไหนดีถึงจะเห็นผลลัพธ์? ก่อนอื่นเราจะมาเรียนรู้ถึงสาเหตุที่ทำ Hifu แล้วไม่เห็นผล/เห็นผลลัพธ์ช้ากันก่อน
Hifu เป็นการรักษาชนิดแบบยิงคลื่นอัลตราซาวด์เข้าไปยังชั้นผิวใต้ผิวหนัง ไม่ใช่การผ่าตัดโดยตรงที่สามารถทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีที่พักฟื้น ดังนั้นจึงต้องใช้ระยะเวลาและการทำ Hifu เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจน เพราะในการทำครั้งแรกนั้นอาจเห็นผลเพิ่มขึ้นเพียง 20-30% ไม่สามารถฟื้นฟูชั้นผิวใต้ผิวหนังทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้ และต้องใช้เวลาในการให้ชั้นผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ระยะที่ประมาณว่าจะเห็นผลลัพธ์ในการทำคือประมาณ 3-4 เดือนหลังจากทำครั้งล่าสุด และมีโอกาสที่ผลลัพธ์ได้จะอยู่ได้นานมากที่สุดคือประมาณ 1 ปี
จากการวิจัยพบว่าการรักษาประเภท Hifu มีแนวโน้มที่จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีที่เริ่มมีผิวหย่อนหยาน แต่ไม่ได้หมายถึงว่าผู้อายุต่ำกว่า 30 ปีเมื่อทำแล้วจะไม่เห็นผล เพราะหากเราปล่อยให้ผิวหนังหย่อนยานหรือหย่อนคล้อยมากเกินไป Hifu อาจเป็นวิธีการรักษาที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นเราจึงสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อที่จะชะลอความหย่อนหยานของผิว และทำให้ผิวหน้ากระชับสม่ำเสมอ
หรืออาจเกิดจากแพทย์ใช้พลังงานของอุปกรณ์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สมควรอันเนื่องมาจากผู้รับการรักษาไม่สามารถทนความเจ็บที่เกิดขึ้นขณะใช้เครื่องมือได้ กรณีนี้จำเป็นต้องทำบ่อยๆ และทำเป้นประจำ โดยการใช้พลังงานต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่มจำนวน shot หรือ line ให้มากขึ้นหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ทำเป็นเครื่องแบบอื่นแทน
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำแล้วไม่เห็นผลทำให้ต้องพิจารณาไปทำ Hifu ของคลินิกอื่น หรือเกิดความสงสัยว่าควรทำ Hifu ที่ไหนดี อาจเกิดจากการใช้เครื่อง Hifu ไม่เหมาะสมกับปัญหา จากบทความด้านบนจะพบว่าเครื่อง Hifu แต่ละชนิดเหมาะสมกับปัญหาชั้นผิวใต้ผิวหนังที่แตกต่างกันไป เช่น
- เครื่อง Ulthera SPT เหมาะสำหรับคนที่ชั้นไขมันน้อย อาจเกิดอาการเจ็บเล็กน้อยขณะทำการรักษา จึงต้องใช้ยาชาช่วยในการทำ มีราคาสูงแต่ประสิทธิภาพดี ให้ผลลัพธ์ได้ไวกว่า
- เครื่อง Ultraformer III สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ทุกระดับชั้นผิว ช่วยกระชับผิวหนังและสลายไขมัน ริ้วรอย ร่องใต้ตา ร่องแก้ม มีความเร็วในการฉีดที่เร็วกว่าประเภทอื่น ทำให้ระยะห่างระหว่างการยิงแต่ละครั้งสั้นลง ไม่ทำลายผิวรอบข้าง ช่วยยกกระชับและไขมันเฉพาะจุดได้
- เครื่อง Lifthera ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาช่วยในการทำ เพราะมีเทคโนโลยี TDT ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บ พลังงานเสถียรและกระจายตัวกว้าง ทำให้ยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนได้
ดังนั้นก่อนเริ่มตัดสินใจทำ ควรรับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและทำให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพดีที่สุด
การทำ Hifu ควรเลือกแพทย์อย่างไร? ทำไมต้องให้แพทย์เป็นคนทำ
Hifu สามารถทำที่คลิกนิกทั่วไปได้ไหม? ซื้อเครื่องทำเองได้รึเปล่า? การทำ Hifu นั้นควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สามารถทราบปัญหาผิวและการรักษาเป็นอย่างดี มีประสบการณ์การรักษา ใช้เครื่องมือได้อย่างชำนาญ เพราะอุปกรณ์มีความซับซ้อนในการใช้ จะต้องปรับค่าพลังงานให้เหมาะสม ออกแบบการยิงให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าหรือเฉพาะจุด
ทำ Hifu ที่ไหนดีที่มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน? เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแพทย์มีความเชี่ยวชาญจริงหรือเปล่า มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน คลินิกที่เราไปทำมีมาตรฐานรึเปล่า? คำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการให้บริการทางด้านความงาม ก่อนที่จะลงมือรับการรักษา เราควรจะเดินเข้าไปสอบถาม-ขอรับการปรึกษาการรักษาเบื้องต้นในคลินิกที่สนใจ รวมถึงหาข้อมูลของแพทย์ว่ามีประสบการณ์ทางด้าน Hifu มานานกี่ปี เคยรักษามาแล้วกี่เคสผ่านหน้าเว็บไซด์ของคลินิก เพื่อให้มั่นใจว่าแพทย์สามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างชำนาญและมีโอกาสเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด
ในปัจจุบันเราสามารถตรวจสอบได้ทั้งรายชื่อแพทย์เฉพาะทาง ชื่อผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านเวชกรรม ใบอนุญาตคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรอง โดยการค้นหาผ่านทางเว็บไซด์แพทย์สภา โดยกรอกชื่อ-นามสกุล ข้อมูลของแพทย์ที่เราต้องการตรวจสอบหรือชื่อคลินิก
รีวิวการทำ Hifu มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
ทำ Hifu ที่ไหนดี? ดูรีวิวแล้วสามารถเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน? Hifu ดีจริงหรือ? การทำ Hifu ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีทันทีหลังการรักษา แม้จะมีบางเคสที่สามารถเห็นได้ชัดว่าดีขึ้นทันทีแต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลอย่างต่ำ 3-4 เดือน
การทำ Hifu เอง แม้จะไม่ผ่านการผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดรอยแผลบนใบหน้า แต่ก็มีอาการเจ็บบริเวณใบหน้าเมื่อเข้ารับการรักษาทำให้ต้องใช้ยาชาในบางเคส รวมถึงผลกระทบหลังการรักษาเกิดขึ้น เช่น อาการหน้าบวมเล็กน้อย อาการหน้าแดงเนื่องจากความร้อนที่ได้รับ อาจมีอาการปวด ทำให้ผู้รับการรักษาจะต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหรือรับประทานยาตามหมอสั่ง
Hifu เป็นการรักษาที่ค่อนข้างให้ความปลอดภัยหากได้รับการรักษาผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่เหมาะที่จะรับการรักษาประเภทนี้ เช่น
- ผู้ที่มีอาการผิวอักเสบง่าย มีแผลผ่าตัดที่ยังไม่หายสนิท มีการฝังโลหะในบริเวณที่จะเข้ารับการรักษา
- สตรีมีครรภ์
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตหรือผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
- ผู้ที่มีการรับรู้ความรู้สึกบกพร่อง
ดังนั้นแล้วการเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี หากมีคลีนิกที่นำเสนอการรีวิวเช่น ‘Hifu สามารถรักษาได้ทุกคน’ ‘Hifu หลังทำปุ้บเห็นผลปั้บ’ หรือ ‘Hifu มีความปลอดภัย 100%’ เห็นได้ชัดว่าเป็นการโฆษณาที่เกินจริง รวมถึงราคาต่อคอร์ส ไม่ควรพิจารณาจากการที่เห็นว่ามีราคาถูก แต่ควรจะพิจารณาจากราคาคลีนิกหลายๆ แห่ง เพื่อให้เห็นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม เช่นเครื่อง Ulthera SPT ที่ใช้ในการรักษา เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่และราคาสูง ประสิทธิภาพดี จึงทำให้ราคาการรักษาแพงขึ้นตามไปด้วย
กรณีที่ต้องการการรักษาที่ราคาไม่แพงมากและคุ้มค่า ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาเฉพาะจุดมากกว่าที่จะเลือกทำทั้งใบหน้า ราคาโดยประมาณดังนี้
- เครื่อง Ulthera SPT เฉพาะจุดประมาณ 4,000-8,000 บาท และทั่วใบหน้าประมาณ 30,000-70,000 บาท
- เครื่อง Ultraformer III และ Lifthera เฉพาะจุดประมาณ 3,000 บาท และทั่วใบหน้าประมาณ 10,000-25,000 บาท
ทั้งนี้ราคาอาจมีการคลาดเคลื่อนมาก/น้อยกว่านี้เล็กน้อยตามแต่ละคลินิก เนื่องจากราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับเฉพาะเครื่องที่ใช้การรักษา แต่ยังขึ้นอยู่กับฝีมือของแพทย์, ประสบการณ์การรักษา, การให้คำปรึกษา, ขนาดหัวยิงตามความลึกของชั้นผิว, ชนิดการรับการรักษาแบบ line/shot และปริมาณ line/shot ที่ได้รับต่อ 1 คอร์ส
สรุป
เราควรเลือกคลินิกที่เหมาะสมสำหรับตัวเราในการทำ Hifu ที่ไหนดีนะ? ในขั้นตอนเริ่มต้นควรพิจารณาถึงปัญหาใบหน้าที่เราต้องการจะทำเป็นอย่างแรก เช่น ต้องการช่วยยกกระชับทั้งใบหน้า สลายไขมันบริเวณใต้คางหรือเหนียง ลดเลือนริ้วรอย ร่องใต้ตาหรือร่องแก้ม เพื่อที่จะสามารถขอรับการปรึกษาจากหมอได้ถูกต้องตรงจุด
เมื่อมีการพิจารณาควรคิดรวมไปถึงการเลือกเครื่องในการทำ Hifu ที่เหมาะสมเนื่องจากแต่ละเครื่องมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เครื่อง Ulthera SPT ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อยขณะทำการรักษา มีราคาสูงแต่ประสิทธิภาพดี ให้ผลลัพธ์ได้ไวกว่า, เครื่อง Ultraformer III สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ทุกระดับชั้นผิว ไม่ทำลายผิวรอบข้าง ช่วยยกกระชับและไขมันเฉพาะจุดได้, เครื่อง Lifthera ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาช่วยในการทำ ด้วยเทคโนโลยี TDT ช่วยบรรเทาความเจ็บ พลังงานเสถียรและกระจายตัวกว้าง
ศึกษาข้อมูลพร้อมแล้วต้องการเริ่มต้นทำการรักษา แต่ทำ Hifu ที่ไหนดีที่จะปลอดภัย ควรตรวจสอบคลินิกและแพทย์ผ่านทางเว็บไซด์แพทย์สภาก่อน เพื่อรับข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ รวมถึงการดูรีวิวการทำ Hifu จากลูกค้าหลายๆ เว็บไซด์ไม่ใช่เฉพาะผ่านทางหน้าเว็บไซด์ของคลินิก รวมถึงต้องพิจารณาและไม่รับข้อมูลการรักษาที่จริงจนเกินไปเป็นสิ่งสำคัญ