ดริปวิตามินผิว ฟื้นฟูจากภายใน ออร่าถึงระดับเซลล์ผิว

อย่างที่ทุกคนทราบกันเป็นอย่างดีกว่าวิธีดูแลสุขภาพให้สดใสแข็งแรงเบื้องต้นคือการทานอาหารครบห้าหมู่ ทานผักผลไม้ที่เป็นประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารแต่วิตามินที่เพียงพอ แต่ด้วยการใช้ชีวิตการทำงานของยุคปัจจุบันที่มีความเร่งรีบ บางครั้งการดูแลสุขภาพก็เป็นเรื่องยาก แต่แม้จะทำตามทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วบางครั้งวิตามินที่ได้รับก็ยังดูไม่เพียงพอ ทำให้ผิวพรรณไม่ผ่องใส หรือสภาพแวดล้อมที่หลีกเลี่ยงได้ยากส่งผลต่อภูมิคุ้มกันร่างกาย การดริปวิตามินจึงเป็นตัวเลือกการดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งในแง่สุขภาพร่างกาย ภูมิคุ้มกัน และผิวที่กระจ่างใสยิ่งขึ้นอีกด้วย
ดริปวิตามิน คืออะไร

IV Therapy , IV Booster , Vitamin IV Drip หรือที่เรารู้จักกันในภาษาไทยว่า “ดริปวิตามิน” เป็นการให้วิตามินหลากชนิด แร่ธาตุและเกลือแร่ต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดโดยตรง ส่งผลให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างเต็มที่ พร้อมใช้บำรุงระบบภายในได้ทันที การดริปวิตามินนั้นจะใช้เวลาประมาณ 30 – 60 นาที ผู้ที่ต้องการทำการให้วิตามินสามารถนั่ง หรือเอนนอนเพื่อทำการต่อสายน้ำเกลือให้วิตามิน พร้อมกันกับการทำกิจกรรมผ่อนคลายเช่นการอ่านหนังสือ ดูซีรีส์ เล่นโซเชียลมีเดียได้ตามอัธยาศัย หรือสามารถหลับพักผ่อนขณะทำก็ได้เช่นกัน การดริปวิตามินมีหลายสูตรตามแต่ละสถานให้บริการ โดยมีตั้งแต่การดริปวิตามินผิว ดริปวิตามินเพื่อสุขภาพ หรือการดริปวิตามินเพื่อบำรุงระบบการเผาผลาญ แต่ละสูตรก็มีราคาแตกต่างกันไป ด้วยความรวดเร็วในการทำ เห็นผลลัพธ์ไว และมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไป จึงทำให้การดริปผิวเป็นอีกตัวเลือกการดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยม
ดริปวิตามินอันตรายหรือเปล่า ?
การดริปวิตามินจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ต้องมีแพทย์ หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแล ซักประวัติ ตรวจร่างกายก่อนรับวิตามิน มีการประเมินเพื่อได้รับวิตามินที่เหมาะสมกับร่างกาย รวมถึงดูแลหลังการดริปวิตามิน สำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการดริปวิตามินผิว ดังนี้
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้วิตามินที่มีในสูตรดริปวิตามินนั้น ๆ
- ผู้มีภาวะไตเสื่อม หรือไตวาย
- ผู้ที่มีไข้สูง
- ผู้ที่ต้องทานยาต้านเกล็ดเลือด
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
ดริปวิตามินช่วยเรื่องอะไรบ้าง
การดริปวิตามินมีประโยชน์ในเรื่องการให้สารอาหารกับร่างกาย เพราะเป็นแร่ธาตุที่สามารถดูดซึม และนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารซึ่งอาจทำให้ท้องอืด ดริปวิตามินผิวจะช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเหนื่อยล้า ความเครียดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้นหลังจากมีการดริปวิตามินต่อเนื่องได้
ดริปวิตามินสูตรไหนดี?
1. IV White Skin & Detox (สูตรดีท็อกซ์ผิว )
ดริปวิตามินสูตรดีท็อกซ์ผิวจะส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการทำลายเซลล์ผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะฝุ่น แสงแดด เสริมวิตามินที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายทำให้สามารถรับสารอาหารได้เต็มที่มากขึ้น ผิวนุ่ม กระจ่างใส
2. IV White & Fresh (สูตรเน้นผิวกระจ่างใส)
วิตามินสูตรเน้นผิวที่กระจ่างใสอัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบำรุงผิวเช่น วิตามินซี วิตามินบี เป็นต้น ช่วยให้ผิวค่อย ๆ ใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ลดภาวะผิวเสียจากมลภาวะ ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำจากแสงแดด
3. IV Super Hydrate (สูตรเติมความชุ่มชื้นให้ผิว)
วิตามินดริปผิวที่ช่วยเรื่องการเติมความชุ่มชื้นจะมีส่วนประกอบของกรดอะมิโน เปปไทด์ รวมถึงสารสกัดจากพืช ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูคอลลาเจนของผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ฉ่ำน้ำ คืนความยืดหยุ่นให้ผิว แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ให้กลับมาอิ่มฟู
เตรียมตัวก่อนดริปวิตามินผิวอย่างไร
ในการเลือกให้วิตามินผิว IV Drip สิ่งสำคัญคือการทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นจึงแนะนำเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่รมย์รวินท์ คลินิกก่อน เพื่อสอบถามประวัติ โรคประจำตัว และปัญหาผิวหรือปัญหาทางร่างกาย เช่น ต้องการให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง พักผ่อนน้อย อยากล้างสารพิษในร่างกาย แจ้งวัตถุประสงค์ที่ต้องการแก้ไข จากนั้นแพทย์จะประเมินจากปัจจัยร่างกาย และเลือกสูตรให้เหมาะสมกับคนไข้ ข้อควรทราบคือ IV Drip ไม่มีผลเสียต่อร่างกายเพราะตัววิตามินที่ใช้ จะไม่ตกค้างในร่างกาย
หลังดริปวิตามินผิวควรดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้เกิดผลข้างเคียง
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิวเป็นอย่างดีจะช่วยคงไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่ดี ช่วยหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังจากให้วิตามินกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเรียบร้อยแล้ว สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดเท่าที่ทำได้ หากมีความจำเป็นต้องเจอกับแสงแดดร้อนจัด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไปในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ผิวคล้ำเสียยากขึ้น
- ประคบเย็นบริเวณที่ได้รับการดริปวิตามิน ลดรอยช้ำที่อาจเกิดขึ้นจากเข็ม
- หมั่นสังเกตอาการตนเองหลังจากได้รับวิตามินว่ามีการแพ้ใด ๆ หรือไม่
- ดื่มน้ำให้วันละ 1 – 2 ลิตรหนึ่งวัน เนื่องจากการดื่มน้ำจะทำให้วิตามินที่ได้รับเกิดการหมุนเวียนทั่วทั้งร่างกาย ดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย เข้าไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ผิวชุ่มชื้น
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาจะทำให้สารเคมีที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกาย เข้าไปแทนที่วิตามินดีที่ได้รับจากการดริปผิว นอกนั้นสารเหล่านี้ยังส่งผลเสียต่อผิว ทำให้ผิวหมอง แห้งกร้าน เกิดริ้วรอย และส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายเช่นกัน
ดริปวิตามินผิวที่ไหนดี?
การเลือกที่ดริปวิตามินควรศึกษารายละเอียดความปลอดภัย ควรทำในคลินิก โรงพยาบาล หรือสถานที่พยาบาลที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากการทำทรีตเมนต์ดริปผิวต้องมีการให้ผ่านน้ำเกลือ มีการนำสารสกัด วิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย จึงมีความเป็นจะต้องทีมแพทย์ และพยาบาลคอยดูแลตลอดทุกขั้นตอน รมย์รวินท์ คลินิก มีทีมแพทย์ที่สามารถให้คำปรึกษา เพื่อค้นหาสูตรดริปผิวที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล แก้ปัญหาของผู้เข้ารับบริการได้ยอ่างตรงจุด พร้อมทั้งมีการคำนวณ อัตราความเร็วในการให้สารน้ำเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ไม่เกิดอันตรายระหว่างการทำการให้วิตามิน การดริปวิตามินจึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้ารับการบริการ หากสนใจดริปวิตามินกับทาง รมย์รวินท์ คลินิก สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์ 080-1539000 และ 080-1549000 หรือไลน์ Line@ : @Romrawinclinic
IV Drip ต่างจากการทานวิตามินอย่างไร?
IV Drip หรือการดริปวิตามินต่างจากการทานวิตามินโดยทั่วไปตรงที่ การทานวิตามินทั่วไปจะต้องมีการผ่านกระบวนการย่อยของร่างกาย ทำให้คุณค่าของวิตามินส่วนหนึ่งมีการสูญเสียไปกับทางผ่านระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้การทานวิตามินจะมีปริมาณที่จำกัดที่ร่างกายสามารถรับได้ต่อครั้งทำให้คงเหลือร่างกายได้รับเพียง 30% เท่านั้น แต่การดริปวิตามินผ่านเส้นเลือดดำ เป็นการให้วิตามินกับร่างกายอย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อยจึงคงเหลือปริมาณที่ร่างกายได้รับถึง 90% ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ในการซ่อมแซม บำรุงเซลล์ภายในร่างกายได้เลย จึงถือเป็นวิธีที่จะได้รับวิตามินรวดเร็ว และได้รับประโยชน์มากที่สุดวิธีหนึ่ง

เราควรดริปวิตามินบ่อยแค่ไหน?
การดริปวิตามินควรทำอย่างต่อเนื่องทุก 1 – 2 สัปดาห์ในช่วงแรก และต่อเนื่องกัน 4 – 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย จากนั้นจึงจะสามารถเว้นระยะได้ตามความต้องการ ขึ้นอยู่กับวิตามินในแต่ละสูตรว่ามีความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด รวมถึงขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของแต่ละบุคคลว่ามีอาการโทรม หมองคล้ำ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า หรือมีปัญหาที่ต้องการแก้ไขมากเพียงใด อย่างไรก็ตามการดริปผิวเมื่อร่างกายได้นำสารอาหารไปใช้หมดแล้วก็จะมีการขับถ่ายสิ่งที่เหลือผ่านทางอุจจาระ ปัสสาวะ ไม่ได้คงทนอยู่ในร่างกายตลอดไป การดริปวิตามินจึงต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด