ท็อปเปอร์ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้คุณ

ท็อปเปอร์ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้คุณ

ปัจจุบันคุณจะเห็นผู้คนโพสต์ลงโซเชียลเรื่องอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังกันมากขึ้น บางคนถึงขั้นหาหมอกายภาพบำบัด แพทย์แผนจีน หมอนวด เพื่อฝังเข็ม ครอบแก้ว และจัดกระดูก แต่อย่าลืมว่านั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะนอกจากไลฟ์สไตล์ที่ทำในแต่ละวันสามารถส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่หลายคนมองข้ามคือ การนอน 

ปัญหาการนอนหลับไม่สนิท นอนไม่สบายตัว ตื่นมามีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หลัก ๆ เกิดจากการนอนบนที่นอนที่ไม่ได้มาตรฐาน แข็งหรือนิ่มเกินไป นอนแล้วเป็นหลุม  ไม่รองรับสรีระของผู้นอน หลายแบรนด์จึงมีการคิดค้นและผลิตท็อปเปอร์สำหรับปูทับบนที่นอนอีกชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนอนให้ดียิ่งขึ้น


ท็อปเปอร์ (Topper) คืออะไร

ท็อปเปอร์ (Topper) คืออะไร

topper ที่นอน คือ แผ่นสำหรับปูรองบนที่นอนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนอน ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ให้คุณได้นอนหลับสบายตลอดคืน ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาผลิตท็อปเปอร์ที่นอนมีดังนี้  ยางพารา เมมโมรี่โฟม ขนสัตว์เทียม เส้นใยไมโครเจล และฟองน้ำ เป็นต้น 


แนะนำ 5 อันดับท็อปเปอร์ตัวไหนน่าสนใจบ้าง 

แนะนำ 5 อันดับท็อปเปอร์ตัวไหนน่าสนใจบ้าง

ที่นอนท็อปเปอร์เป็นตัวช่วยสำคัญเรื่องการนอน เนื่องจากท็อปเปอร์รองนอนจะช่วยปรับความสมดุลของที่นอนให้เข้ากับสรีระและลักษณะการนอนของคุณมากที่สุด ซึ่งช่วยลดอาการปวดเมื่อยร่างกายหลังตื่นนอน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับได้ดีตลอดคืน 

วัสดุที่นำมาใช้ผลิตท็อปเปอร์มีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกันออกไป หากคุณสนใจtopperที่นอน แต่เลือกไม่ถูกว่าท็อปเปอร์แบบไหนดี เราขอแนะนำ 5 อันดับท็อปเปอร์ที่ได้รับมาตรฐานและได้รับความนิยมสูง จะมีแบรนด์ใดบ้างไปชมกัน

1. แบรนด์ ZDECOR CHARM Topper

  • ZDECOR CHARM Topper รุ่น Cloud Nine ขนาด 3.5 ฟุต สีเทา เป็นท็อปเปอร์เกรดโรงแรม วัสดุที่นำมาผลิตคือ ใย Hollow Conjugated ผ้าด้านนอกทำมาจากผ้าคอตตอนซาตินและผ้าฝ้ายคุณภาพดี จึงสัมผัสได้ถึงความนุ่ม เรียบเนียน เย็นสบาย และมันเงา ราคา 1,046 บาท
  • ZDECOR Topper รุ่น Cloud Nine ขนาด 6 ฟุต สีฟ้า  ใช้ใย Hollow Conjugated ที่มีความหนาแน่น 250 กรัมต่อตารางเมตรมาผลิตจึงนุ่มสบาย และที่สำคัญดูแลรักษาง่ายมีคุณสมบัติกันไรฝุ่นและกันขนสัตว์ได้ดี ราคา 1,186 บาท

2. แบรนด์ LOTUS 

  • LOTUS ท็อปเปอร์ รุ่น Ayame Cloud สีขาว ถูกขนานนามว่าเป็นที่นอนท็อปเปอร์ปุยเมฆ ผลิตจากเส้นใย NANO CLOUD-FIBER และใช้วัสดุ Microtex นำมาผลิตผ้าหุ้ม ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล เรียบเนียน และเย็นสบาย ราคา 2,290 บาท
  • LOTUS ท็อปเปอร์ รุ่น FORESTEX I WHITE สีขาว หนา2นิ้ว วัสดุที่นำมาผลิตคือ ยางพารา สามารถรองรับสรีระของผู้นอนได้ดีเยี่ยม ส่วนผ้าหุ้มมีความเย็นสบายเพราะใช้ 3D Embross Microtex ในการผลิต ราคา 2,790 บาท

3. TV Direct 

  • TV Direct Octasmart Plus Topper Queen ทอปเปอ รุ่น พลัส สีขาว วัสดุที่นำมาผลิตคือเมมโมรี่โฟม ช่วยลดแรงกดทับได้ดี มีช่องระบายอากาศทั่วท๊อปเปอร์ จึงรูัสึกเย็นสบายเมื่อใช้งาน ราคา 1,790 บาท 
  • TV Direct Octasmart Plus Topper King ทอปเปอร์ รุ่น พลัส สีขาว ผลิตจากเมมโมรี่โฟม จึงช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี รองรับทุกสัดส่วนของร่างกาย ราคา 5,490 บาท

4.  แบรนด์ SoftTop 

  • SoftTop ท็อปเปอร์ รุ่น ขนเป็ดแท้ มีขนาด 3.5 – 6 ฟุต สีขาว ภายในผลิตจากเส้นใยขนเป็ดธรรมชาติแท้ ส่วนผ้าหุ้มผลิตจาก Cotton 100% จึงมีผิวสัมผัสที่ นุ่ม เย็นสบาย รองรับสรีระได้ดีและคืนตัวช้าเหมือนวัสดุ Memory foam ซึ่งมาพร้อมกับสายรัดมุมขนาด 5 CM และที่สำคัญที่นอนท็อปเปอร์รุ่น SoftTop มีอายุการใช้งานนานกว่า Topper รุ่นทั่วไปถึง 2 เท่า ราคา 2,990 บาท

5. แบรนด์ RINA HEY

  • RINA HEY ฟูก OXFORD สีขาว ภายในทำจากฟองน้ำอัด Hi-Dentisy ใยมะพร้าว และโครงสปริง มีคุณสมบัติคืนตัวได้ดี วัสดุหุ้มทำจากผ้า 100% ขนาด W182 X D198 X H25 CM ราคา 6,900 บาท
  • RINA HEY ฟูก (พ็อกเก็ตสปริง 10″) BEDFORD สีขาว ภายในทำจากฟองน้ำอัด Hi-Dentisy ใยมะพร้าวและโครงสปริง วัสดุหุ้มทำจากผ้า 100% ขนาด W182 X D200 X H26 CM ราคา 9,900 บาท

สรุป

ตามท้องตลาดมีทั้งท็อปเปอร์ ราคาถูกและราคาแพง ซึ่งขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตและความหนาแน่นของทอปเปอร์ แต่ไม่ว่าtopperจะราคาเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับจากการซื้อที่นอนtopperคือ ช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอน

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.clickzy.com/