Persona คืออะไร? มีกี่ประเภท สำคัญอย่างไรต่อการสร้างธุรกิจ
User Persona หรือ Persona คือแนวคิดที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานด้าน Digital Marketing และ Social Media Marketing ในการให้คุณได้จำลองเหตุผลของการสร้างผู้ใช้จำลองที่แท้จริงของทั้งลูกค้าและตัวตนของแบรนด์ (Brand Persona) ที่สามารถช่วยกำหนด Persona Target ได้อย่างแม่นยำ และในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเพอโซน่าว่าแท้จริงแล้วแปลว่าอะไร เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ในการวางแผนกิจการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณ
Persona คืออะไร
หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้ว Persona คืออะไร? Persona หรือ User Persona คือการสร้างตัวละครเสมือนจริงที่แทนบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของธุรกิจหรือองค์กร เพื่อเข้าใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ พฤติกรรมการซื้อ ความต้องการ และคาดหวังที่สำคัญ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ในการสร้าง Persona ผู้จัดทำจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่จะประกอบไปด้วยขั้นตอน Proto Persona, User Persona, Customer Persona, และ Buyer Persona เพื่อสร้างภาพคร่าว ๆ ของบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมาย ที่ช่วยให้ผู้จัดทำสามารถเข้าใจและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และอาจมีคนสงสัยกันอยู่บ้างว่าแต่ละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Proto Persona, User Persona,และ Customer Persona คืออะไร, รวมถึง Buyer Persona แปลว่าอะไร สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้
Persona มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
Persona คืออะไร? และมีกี่ประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทมีเป้าหมายและความสำคัญที่แตกต่างกันไปตามบริบทและวัตถุประสงค์ที่ใช้งาน โดยจะมีดังนี้
- Proto Persona คือ ผู้ใช้งานที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในขั้นตอนแรกของกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดย Proto Persona จะถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลเบื้องต้นที่มีอยู่และความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว Proto Persona จะไม่มีรายละเอียดที่ละเอียดมากเท่า Buyer Persona หรือ User Persona ที่ถูกสร้างขึ้นในขั้นตอนที่ละเอียดขึ้นในภายหลัง
- User Persona คือ ตัวละครหรือบุคคลสมมติที่ใช้ในกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อให้ผู้จัดทำเข้าใจลักษณะการใช้งาน, ความต้องการ, และปัญหาที่ผู้ใช้งานอาจพบ เป้าหมายของ User Persona คือเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ง่ายสะดวกตามความต้องการของผู้ใช้งาน
- Customer Persona คือ ลักษณะและบุคคลิกของลูกค้าที่เป้าหมายในการตลาด การสร้าง Customer Persona เป็นกระบวนการในการวิเคราะห์และเข้าใจลักษณะของลูกค้าเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Buyer Persona คือ ลักษณะและบุคคลิกของลูกค้าที่เป้าหมายในการตลาด การสร้าง Buyer Persona เป็นขั้นตอนสำคัญในการเข้าใจลักษณะและความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ผู้จัดทำสามารถพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เหมาะสมและตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 ขั้นตอนง่ายๆ สร้าง Persona
ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนในการสร้าง Persona จริง ๆ ขอให้คุณกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของ Persona ที่คุณต้องการสร้าง เพราะเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์นั้นจะช่วยกำหนดขอบเขตและข้อมูลที่คุณควรรวบรวมใน Persona คือ การทำให้เหมาะสมนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 1 รวบรวมข้อมูล
สำรวจและรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจมาจากการสำรวจตลาด, ข้อมูลลูกค้า, การสัมภาษณ์, และการสำรวจทางอินเตอร์เน็ต ในขั้นตอนนี้ควรรวบรวมข้อมูล User Segment เกี่ยวกับความต้องการ, ปัญหา, พฤติกรรม, และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อใช้ในการสร้าง Persona
การรวบรวมข้อมูลของ Persona สรุปได้ดังนี้
- กำหนดเป้าหมาย ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ Persona ที่ต้องการสร้าง
- ศึกษาข้อมูลที่มีอยู่: ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ในระบบ หรือข้อมูลตลาดที่เป็นประโยชน์
- สัมภาษณ์และสำรวจ:สัมภาษณ์กับกลุ่มเป้าหมายและใช้สำรวจเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม.
- สร้างโครงร่าง รวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างโครงร่างของ Persona โดยรวมลักษณะเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างเสียงเสมือน ให้ Persona คือคนจริงโดยกำหนดชื่อ รูปภาพ และข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้มีตัวตนชัดเจน
และอย่าลืมว่าการสร้าง Persona คือการเน้นที่ข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของคุณ เพื่อให้ Persona เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการตัดสินใจและวางแผนกิจกรรมต่าง ๆ ให้มีผลสำเร็จและประสิทธิภาพสูงสุด
ขั้นตอนที่ 2 กำหนดรายละเอียด
เมื่อเราได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมข้อมูล Persona ที่จำเป็นได้แล้ว เราสามารถกำหนดรายละเอียดของ Persona ได้ดังนี้
- ชื่อ กำหนดชื่อ เพื่อระบุตัวบุคคลในรูปแบบที่เป็นที่รู้จัก ตัวอย่างเช่น “น้องแอน” หรือ “คุณพลอย
- เพศ กำหนดเพศ เพื่อเข้าใจความแตกต่างทางเพศในการตัดสินใจหรือพฤติกรรม อาจเป็นชาย, หญิง, หรืออาจไม่ระบุเพศก็ได้
- อายุ ระบุช่วงอายุ เพื่อให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอายุนั้น ตัวอย่างเช่น 18-24 ปีหรือ 35-45 ปี
- อาชีพ ระบุอาชีพหรือสถานะงาน เพื่อเข้าใจแง่ความต้องการและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น นักศึกษา, ครู, หรือนักธุรกิจ
- ความสนใจ ระบุความสนใจหลัก เพื่อเข้าใจความต้องการและแรงบันดาลใจในการตัดสินใจ อาจเป็นการท่องเที่ยว, กีฬา, ศิลปะ, หรือเทคโนโลยี
- ปัญหาที่พบ ระบุปัญหาหรือความเดือดร้อนที่อาจพบในปัจจุบัน จะช่วยให้เข้าใจเหตุผลและความต้องการในการแก้ปัญหา
ขั้นตอนที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาเพื่อสร้างความเข้าใจลึกขึ้นเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ค้นหารูปแบบที่เกี่ยวข้อง, ความต้องการหลัก, และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสามารถประเมินได้ว่า Brand Persona ของธุรกิจคุณนั้น มีความเหมาะสมกับขนาดขององค์กรในปัจจุบันของคุณหรือเปล่า เพราะหากคุณกำหนด Persona มาแต่ไม่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจก็ไม่สามารถนำ Persona เหล่านั้นไปใช้งานจริงได้
ขั้นตอนที่ 4 สร้าง Persona ตัวจริง
การสร้าง Persona ตัวจริง หมายถึงการสร้างรูปแบบของบุคคลสมมติที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้คุณเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะ, พฤติกรรม, และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ โดยการนำข้อมูลต่าง ๆ มาประกอบรวมกัน จัดแบ่งเป็นกลุ่มข้อมูล แปลงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ (Data Visualization) เพื่อให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้สะดวกบน Persona เพียงรูปเดียว
ตัวอย่าง Buyer Persona
และนี่คือตัวอย่าง Buyer Persona ที่ทางเราได้ทำการออกแบบตามบริบทในการใช้งานของธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจ B2C และธุรกิจ B2B ดังนี้
ตัวอย่าง Persona สำหรับธุรกิจ B2C
ชื่อ: กานดา (Kanda)
เพศ: หญิง
อายุ: 32 ปี
อาชีพ: ครูสอนภาษาอังกฤษ
สถานภาพ: โสด
ลักษณะของกานดา
- กานดาเป็นคนเป็นกันเองและมีบุคลิกภาพที่เป็นกันเอง มีทัศนคติเชิงบวกและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
- เธอมีความสนใจในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และมีความกระตือรือร้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น
- กานดามักมองหาโอกาสในการเดินทางและสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมและภาษาของสถานที่นั้น ๆ
- เธอสนใจในการศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะในการสื่อสารระหว่างประเทศ
- กานดามีการใช้เวลาว่าง ๆ ในการท่องเที่ยว อ่านหนังสือ และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศต่างๆ
ความต้องการและแรงบันดาลใจของกานดา
- กานดาต้องการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทำงานหรือการศึกษาต่อในต่างประเทศ
- เธอต้องการความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ตัวอย่าง Persona สำหรับธุรกิจ B2B
ชื่อ: วราภรณ์ (Waraporn)
ตำแหน่ง: ผู้จัดซื้อในฝ่ายจัดซื้อและพัฒนาธุรกิจ
ธุรกิจ: บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรม
ลักษณะของวราภรณ์
- วราภรณ์เป็นผู้บริหารและผู้ตัดสินใจสำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรม
- เธอมีความคิดอย่างเป็นระบบและเน้นผลลัพธ์ โดยการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูงและสามารถรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมได้
- วราภรณ์มีความรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของบริษัท และมีความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน
- เธอมีความเข้าใจในความต้องการและความสำคัญของคุณภาพสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมที่เธอดำเนินธุรกิจอยู่
ความต้องการและแรงบันดาลใจของวราภรณ์
- วราภรณ์ต้องการความมั่นใจในการทำธุรกิจ ดังนั้นเธอต้องการบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรม
- เธอต้องการการบริการที่มีความเอาใจใส่และรองรับตลอดระยะเวลาในการให้บริการหลังการขาย
Persona มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง?
Persona คือเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมากมาย เนื่องจากมันช่วยให้ธุรกิจเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ไม่แพ้กลยุทธ์ Niche Marketing , Content Mapping , Advertising Targeting , Create New Product / Service หรือกลยุทธ์อื่น ๆ เลย และนี่คือประโยชน์ของการทำ Persona สำหรับธุรกิจ มีดังนี้
- เข้าใจลูกค้า Persona คือเครื่องมือช่วยให้ธุรกิจเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงความต้องการ, ความสนใจ, และปัญหาที่พบ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
- กำหนดกลยุทธ์การตลาด การมี Persona ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม โดยมีข้อมูลลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยให้สามารถเลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสมและวิธีการสื่อสารที่ถูกต้อง
- พัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการ ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้มีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า
- สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดี ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดี โดยสร้างความเข้าใจและการสื่อสารที่ถูกต้องกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความภาคภูมิใจและความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับ Persona Target
- ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ การมี Persona จะช่วยลดความเสี่ยงที่ธุรกิจอาจพบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจมีโอกาสสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
User persona กับ user segment เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง User Perosna และ User Segment อยู่ในลักษณะและระดับของข้อมูลที่สำคัญต่อการวิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งานในการตลาด ดังนี้
- User Persona คือการเน้นการสร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับบุคคลในลักษณะของบุคคลนั้น ๆ โดยมุ่งเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคล เช่น อายุ, เพศ, อาชีพ, ความสนใจ, ปัญหาที่พบ, และพฤติกรรมการใช้งาน ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เข้าใจและสื่อสารกับบุคคลในลักษณะของผู้ใช้งานได้ดีขึ้น
- User Segment คือการเน้นการจัดกลุ่มผู้ใช้งานตามลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เช่น กลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี, กลุ่มผู้ใช้งานที่มีรายได้กลาง, หรือกลุ่มผู้ใช้งานที่สนใจด้านการเดินทาง โดย User Segment จะถูกกำหนดขึ้นโดยการวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มผู้ใช้งานที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Persona
persona ช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างไร?
การเลือกใช้ Persona Marketing สามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง ธุรกิจสามารถทำการตลาดที่เป็นเชิงกลยุทธ์และเฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าที่เหมาะสมและสร้างผลตอบรับที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
persona ควรอัพเดตบ่อยแค่ไหน?
การอัพเดต Persona ควรทำอย่างน้อยทุก ๆ 6-12 เดือนหรือตามความเปลี่ยนแปลงในตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังเน้น การอัพเดต Persona คือเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้องเช่น ข้อมูลการตลาดล่าสุด ข้อมูลลูกค้าใหม่ และแนวโน้มทางธุรกิจ เพื่อให้ Perzona ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจ