Radiesse สารที่กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนปังมากขึ้น
ปัจจุบันนวัตกรรมความงามที่ช่วยให้หลาย ๆ คนได้รับการเติมเต็มจากปัญหาหนักใจกับริ้วรอยจากร่องลึกตามวัยอายุ ช่วยให้ผิวหนังในบริเวณที่กังวลได้กลับมาเต่งตึง อิ่มฟู ดูอ่อนวัยขึ้น นั้นก็คือ นวัตกรรม Radiesse (เรเดียสซ์) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา (US FDA Approved) และยังเป็นที่ยอมรับจากทุกมุมโลกในการไว้วางใจให้ช่วยแก้ไขปัญหาความงามด้วยผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า filler ประเภทอื่น ๆ ซึ่งจะมีระยะเวลาในการสลายได้เองตามธรรมชาติอย่างรวดเร็วนั้นเอง
Radiesse คืออะไร ? ทำไมหลาย ๆ คนจึงให้ความสนใจ
มาทำความเข้าใจเบื้องต้นกับ radiesse คืออะไร ?
: เรเดียส หรือ radiesse คือ สารชนิดหนึ่งที่ได้พัฒนาจากนวัตกรรมรูปแบบใหม่ด้วยตัวยาที่เป็นตัวฉีดกระตุ้นให้กับคอลลาเจน (Biostimulator) โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) โดยผ่านการคิดค้นพร้อมทั้งวิจัยจาก Merz Aesthetics ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตนวัตกรรมความงามระดับโลกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายประเทศตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน
หน้าที่ของ Radiesse จะเข้าไปส่งผลให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณชั้นผิว เพื่อให้เซลล์ใต้ชั้นผิวหนังในบริเวณนั้นได้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ด้วยตนเอง สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้มากสำหรับท่านที่มีสภาพผิวเป็นร่องลึกในระดับกลาง จนถึงร่องลึกระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม , ร่องตา , สภาพผิวตามมือ/หลังมือ , บริเวณคอ เป็นต้น ซึ่ง Radiesse จะให้ผลลัพธ์ในการกระชับผิวหน้าในบริเวณดังกล่าว ช่วยให้เกิดการสร้างสภาพโครงหน้าที่ชัดเจนขึ้น ช่วยให้สภาพผิวหน้าดูเต่งตึง ลดร่องรอยเหี่ยวย่นเพิ่มความอ่อนเยาว์ สามารถช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานนั้นเอง
Radiesse มีหลักการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ?
ในส่วนการทำงานของ Radiesse คือ ตัวยา Radiesse ที่ฉีดเข้าสู่ผิวหนังในบริเวณที่ต้องการนั้น จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนใต้ผิวหนังในร่างกายตามธรรมชาติ เพื่อให้ร่างกายได้เกิดการผลิตคอลลาเจนได้เร็วมากขึ้น โดยมี CaHA ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตัวยาใน Radiesse พร้อมทั้งช่วยให้เซลล์ได้เกิดการกระตุ้นในบริเวณที่ฉีด radiesse เข้าไป ทั้งตัวยา Radiesse จะช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวหนังพร้อมกับเติมคอลลาเจนให้สภาพผิวในบริเวณนั้นเกิดความเรียบกระชับ ดูเต่งตึง อิ่มน้ำนั้นเอง
โดยกลไกของ Radiesse จะสามารถกระตุ้นการสร้างส่วนประกอบที่สำคัญต่อสภาพผิวที่ดีได้ ดังนี้
- การสร้างพร้อมทั้งกระตุ้นคอลลาเจน Type I และคอลลาเจน Type III ให้มากกว่า 100%
- การเสริมสร้างและรวมทั้งกระตุ้น Elastin
- ตัวยา Radiesse จะเป็นส่วนช่วยเพิ่มจำนวนโปรตีโอไกลแคน (Proteoglycans) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เป็สารอาหารให้กับผิวหนัง
- ตัวยา Radiesse จะช่วยให้ร่างกาย หรือผิวหนังในบริเวณที่ได้รับตัวยาเกิดการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างเส้นเลือดขึ้นมา
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตัวยาที่ Radiesse จะมีหลักการการทำงานที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายได้เกิดการผลิตคอลลาเจนขึ้นมา รวมถึงกระตุ้น Elastin ให้สภาพผิวในบริเวณนั้นได้เกิดการฟื้นฟู ร่องรอยลึกต่าง ๆ ในบริเวณนั้นสามารถกลับมาดูเรียบเนียน ผิวดูยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว อิ่มฟูมากขึ้นอีกด้วย
ตัวยา Radiesse ประกอบด้วยสารอะไรบ้าง?
สารที่เป็นตัวช่วยและองค์ประกอบที่สำคัญของ Radiesse คือ CaHA หรือเรียกอีกชื่อว่า แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite Microsphere) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้เองตามธรรมชาติ จึงกลายเป็นตัวช่วยให้กับนวัตกรรมรูปแบบใหม่อย่าง Radiesse ส่งผลให้สามารถเข้ากับร่างกายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง หนึ่งในอนุภาคของสาร CaHA นี้ ยังช่วยทำหน้าที่ทดแทนมวลกระดูกและฟันที่สึกหรอจากร่างกาย
เมื่อ CaHA ซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งของส่วนประกอบหลักใน Radiesse โดยมีลักษณะอนุภาคทรงกลมขนาดเล็กเพียงแค่ 25 – 45 ไมครอน ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดรูปแบบกระบวนการช่วยเติมเต็มสภาพผิวรวมถึงบริเวณที่ฉีดให้เข้าสู่ชั้นผิวหนัง ด้วยวิธีการจับตัวร่วมกับไฟโบรบาสต์ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ อีกทั้งเมื่อฉีด radiesse เข้าสู่ร่างกายจะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติได้อีกด้วย จึงนับว่าเป็นอีกทางเลือกที่ไม่ทำให้เกิดการต่อต้านจากภูมิคุ้มกันของร่างกายจนส่งผลเสียตามมาได้นั้นเอง
Radiesse แตกต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
ข้อแตกต่างในเบื้องต้นระหว่าง Radiesse กับ ฟิลเลอร์ จะมีด้วยกันดังต่อไปนี้
ระยะเวลา / ความยาวนานของผลลัพธ์ที่ได้รับ
- ฟิลเลอร์ : จะมีอายุในการคงสภาพโดยประมาณ 6 – 12 เดือน
- ในส่วนของ Radiesse : จะมีอายุที่คงสภาพยาวนานมากกว่า 1 ปี
ผลลัพธ์ที่จะได้รับซึ่งแตกต่างกัน ดังนี้
- ฟิลเลอร์ : จะมีฟิลเลอร์บางตัวที่สามารถให้ผลได้ใกล้เคียงกับ Radiesse ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนก็ตามแต่ไม่สามารถมีอายุการคงสภาพในระยะยาวได้นั้นเอง
- Radiesse สามารถให้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังได้ เนื่องจากสาร CaHA ที่มีส่วนประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะช่วยเพิ่มการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ทั้งช่วยให้คุณภาพของผิวหนังในบริเวณที่ฉีด radiesse เข้าไป ส่งผลให้ผิวมีประสิทธิภาพ อิ่มฟูได้ดีขึ้น
เนื้อสัมผัสของฟิลเลอร์ กับ Radiesse แตกต่างกัน ดังนี้
- ฟิลเลอร์จะมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง ไฮยาลูรอน หรือ ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ มักจะถูกพบในบริเวณเนื้อเยื่อของชั้นผิวหนังชั้นใน มีคุณสมบัติพิเศษในการอุ้มน้ำ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในบริเวณที่เติมฟิลเลอร์ได้เป็นอย่างดี เพียงแต่มีเนื้อสัมผัสที่หลากหลายรูปแบบ เพียงแต่เมื่อผ่านไปในระยะเวลาหนึ่งจะสลายไปอย่างรวดเร็วนั้นเอง
- Radiesse จะมีสารประกอบหลักคือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA : Calcium Hydroxylapatite Microsphere) จะเริ่มต้นการทำงานด้วยการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน มีสภาพเป็นเนื้อเจลหนัก ช่วยให้เหมาะกับท่านที่ต้องการแก้ไขร่องผิวหนังที่ลึก ทั้งยังมีระยะเวลานานในการผลิตคอลลาเจนมากกว่าฟิลเลอร์นั้นเอง
วิธีการดูแลตัวเองหลังจากฉีด Radiesse ท่านต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ?
การดูแลตัวเองหลังจาก ฉีด Radiesse จะช่วยส่งผลให้กับสภาพผิวในบริเวณที่ตนเองต้องการรักษาทั้งยังเห็นได้อย่างยาวนาน โดยท่านสามารถเห็นให้ปฏิบัติตนดังนี้
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้ผิวอิ่มฟูชุ่มชื้นยิ่งขึ้น พร้อมกับการงดดื่มมึนเมา เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ รวมถึงงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เมื่อหลังจากฉีด radiesse filler ท่านควรงดการพบเจอแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ควรงดการออกกำลังกายทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการออกกิจกรรมกีฬากลางแดด หรือโดนความร้อนโดนตรง
- ควรงดแต่งหน้าหลังฉีด Radiesse ประมาณ 12 ชั่วโมง และไม่ควรสัมผัส หรือควรจับในบริเวณที่ได้ทำหัตถการ เนื่องจากจะส่งผลให้ตัวยาที่ฉีดเข้าไปเกิดการกระจายตัวจนไม่สามารถคงรูปได้นั้นเอง
- หากพบว่าในบริเวณที่ฉีดตัวยา Radiesse เกิดอาการผิดปกติ รวมทั้งบวมแดงท่านสามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้ หากมีความผิดปกติมากกว่านี้ควรรีบพบแพทย์ที่รักษาโดยทันที
แล้ว Radiesse เหมาะกับใครบ้าง ? และใครบ้างที่ไม่ควรฉีด?
ก่อนการเข้ารักษาด้วยทำหัตถการจากการฉีดตัวยา Radiesse ท่านควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางที่ช่วยหาแนวทางการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปจนถึงการสำรวจ radiesse เหมาะกับใคร การฉีด radiesse ข้อเสียมีหรือไม่ ทั้งศึกษาข้อห้ามของผู้ทำหัตถการฉีด Radiesse เพื่อสามารถแก้ปัญหาที่ท่านเผชิญได้อย่างตรงจุดนั้นเอง
ใครบ้างที่สามารถฉีด Radiesse ได้
การฉีด Radiesse จะเหมาะกับท่านที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป โดยมีความต้องการในการชะลอสภาพผิวตามวัย
- ในบางท่านอาจมีร่องรอย ริ้วรอยของสภาพผิวตามอายุ มีรอยย่นในบริเวณที่สังเกตเห็นได้ง่าย เช่น ร่องปาก ร่องแก้ม ร่องตา หน้าผาก บริเวณขมับ เป็นต้น
- ท่านที่ต้องการปรับรูปผิวให้มีทรงสวยตามที่ต้องการ เช่น รูปทรงคางให้ดูคมมีมิติ ต้องการแก้ไขสภาพผิวหน้าให้ดูอิ่มฟู ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
- ในบางรายจะช่วยให้ปรับความบอบบางของสภาพผิว มองเห็นเส้นเลือดได้ ให้มีคอลลาเจนต่อผิวมากขึ้น
- เหมาะกับท่านที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีด Radiesse ได้ยาวนานกว่าการทำหัตถการตัวอื่น
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด Radiesse
สิ่งที่ต้องท่านควรระวังเกี่ยวกับการใช้ตัวยา Radiesse พร้อมกับควรสำรวจข้อมูลเบื้องต้น โดยเกี่ยวข้องกับข้อห้าม ซึ่งจะช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ จะมีด้วยกันดังนี้
- Radiesse ไม่เหมาะกับท่านที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายผิดปกติ ทั้งยังมีเคยมีประวัติเป็นคีลอยด์ ท่านที่ได้รับประทานยาละลายลิ่มเลือด รวมถึงท่านที่มีประวัติปัญหาเลือดออกง่ายเวลาเกิดบาดแผล รวมถึงท่านที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบต่างๆ ของตัวยา Radiesse
- สตรีบางที่อยู่ในภาวการณ์ให้นมบุตร ท่านที่มีความสงสัยว่าตนเองอาจตั้งครรภ์
- ท่านที่มีเคยประวัติของการอักเสบผิวหนัง หรือผิวหนังอักเสบก่อนที่จะเข้าฉีดในบริเวณนั้น
infiniz Clinic คลินิกฉีด Radiesse โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
Radiesse เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่เพิ่มคอลลาเจนจากธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนภายใต้โครงสร้างชั้นผิวหนังลงไป ช่วยให้สามารถบำรุงสภาพผิวได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สภาพผิวส่วนที่ต้องการได้กลับมาฟื้นฟู ลดความเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยตามวันอายุ แต่อย่างไรก็ตามท่านควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย และแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง และการฉีด radiesse รีวิวต่างๆ หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมทางเรายินดีให้คำปรึกษาให้ได้ท่านหมดความกังวลใจกับปัญหาที่พบเจอ โดยสามารถสอบถามได้ที่
- Facebook : Infiniz Clinic :: Skin & Facial Design Expert
- Line ID: @Infinizclinic
