แบบประเมินความเครียด เราจำเป็นต้องทำไหม?

แบบประเมินความเครียด

ยุคนี้ที่หลาย ๆ คนเริ่มมีความเครียดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะมาจากการเมืองการเงิน หรือว่าเรื่องราวต่าง ๆ ทำให้แบบประเมินความเครียดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยวัดระดับความเครียดของบุคคล โดยใช้คำถามหรือแบบทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อประเมินปัจจัยทางอารมณ์ จิตใจ และร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความเครียด จุดประสงค์หลักคือเพื่อช่วยให้บุคคลได้ทดสอบความเครียดของตนเอง และสามารถหาวิธีจัดการหรือขอความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี



ภาวะเครียดคืออะไร?

ภาวะเครียดเป็นภาวะทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับแรงกดดันหรือสถานการณ์ที่ท้าทายซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน การเรียน การเงิน หรือปัญหาความสัมพันธ์ ความเครียดสามารถส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า หงุดหงิด ขาดสมาธิ วิตกกังวล หรือมีปัญหาในการตัดสินใจทำให้เราควรทำแบบประเมินความเครียดเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ ระบบย่อยอาหาร ภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง

หากไม่ได้รับวัดระดับความเครียดและประเมินโรคเครียดอย่างเหมาะสมความเครียดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม คนที่เผชิญกับความเครียดเป็นเวลานานอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลีกเลี่ยงสังคม ใช้สารเสพติด หรือมีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ดังนั้นการทำแบบทดสอบความเครียดหรือแบบประเมินความเครียดช่วยให้ตระหนักถึงระดับความเครียดของตนเองและหาวิธีจัดการที่เหมาะสมได้


ประโยชน์ของการทำแบบประเมินความเครียด?

ประเมินโรคเครียด

การทำแบบประเมินความเครียดด้วยตัวเองจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราตระหนักถึงระดับความเครียดของตนเองได้ง่ายและรวดเร็วซึ่งประโยชน์ของการทำแบบทดสอบและประเมินความเครียดมีดังนี้

  • อย่างแรกเลยคือช่วยให้รู้เท่าทันความเครียดของตนเอง การทำแบบทดสอบโรคเครียดช่วยให้เราทราบว่าความเครียดของเรามีระดับมากน้อยแค่ไหน
  • ทำแบบประเมินความเครียดป้องกันปัญหาสุขภาพจากความเครียดสะสม เพราะความเครียดที่ไม่ได้รับการจัดการอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง หรือภาวะซึมเศร้า การประเมินความเครียดช่วยให้เราสังเกตอาการผิดปกติและดูแลสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • ทำแบบสอบถามความเครียดช่วยให้วางแผนจัดการความเครียดได้ดีขึ้นเมื่อรู้ว่าตนเองเครียดมากหรือน้อย เราจะสามารถเลือกวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมช่วยให้เรามีสมาธิที่ดีขึ้น ลดความวิตกกังวล และสามารถทำงานหรือใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เช็คโรคเครียดเพื่อให้รู้จักและยอมรับระดับความเครียดของตนเองเป็นก้าวแรกในการดูแลสุขภาพจิต ช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้าง

วิธีจัดการความเครียดแบบง่าย ๆ 

หลังจากได้ทำแบบประเมินความเครียดแล้วต้องรู้ต่อว่าทำยังไงให้หายเครียดโดยนี้คือเทคนิคที่สามารถนำไปใช้เพื่อลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การหายใจเข้าออกลึก ๆ และช้า ๆ ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความเครียดได้ทันที
  • การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือ “สารแห่งความสุข” ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น
  • ทำกิจกรรมที่ชอบไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง อ่านหนังสือ วาดภาพ หรือดูภาพยนตร์ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายจากความกดดัน
  • วางแผนล่วงหน้าและจัดลำดับความสำคัญของงานเพื่อลดความรู้สึกเร่งรีบและความเครียดจากงานที่สะสม
  • การพักผ่อนที่เหมาะสมช่วยให้สมองและร่างกายฟื้นตัว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่กดดันได้ดีขึ้น
  • การฝึกสมาธิและโยคะช่วยให้จิตใจสงบ ลดความคิดฟุ้งซ่าน และช่วยให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน
  • ลดการบริโภคคาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรือบุหรี่ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเครียดมากขึ้นแทนที่จะช่วยผ่อนคลาย

แบบประเมินความเครียดช่วยวิเคราะห์ภาวะเครียดได้แค่ไหน

แบบวัดความเครียด

แบบประเมินความเครียดเป็นเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบระดับความเครียดของบุคคล แต่ไม่ได้ใช้สำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์โดยตรง เนื่องจากเป็นการประเมินตนเองผ่านแบบสอบถามที่ช่วยให้ผู้ทำแบบประเมินตระหนักถึงภาวะความเครียดของตนเอง อย่างไรก็ตามหากผลการประเมินชี้ให้เห็นว่ามีความเครียดสูงหรือส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่นนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป


ภาวะเครียดมากน้อยแค่ไหนต้องไปหาหมอ?

แม้ว่าความเครียดเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเผชิญ แต่หากมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ควรพิจารณาพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้หากรู้สึกเครียดหนักอย่างต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนโดยไม่สามารถคลายความเครียดได้เองกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

มีปัญหาในการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ขาดสมาธิ หงุดหงิดง่าย หรือหลีกเลี่ยงสังคม และปัญหาการนอนไม่หลับ ตื่นกลางดึกบ่อย หรือหลับไม่สนิทจนร่างกายอ่อนเพลียและส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือมีอาการทางร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเช่น ปวดหัวเรื้อรัง ปวดท้อง ใจสั่น ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาทางเดินอาหารที่ไม่ทราบสาเหตุ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที


แบบประเมินความเครียดต้องไปทำที่ไหน?

หากต้องการทำแบบประเมินความเครียดด้วยตัวเองสามารถทำผ่านกรมสุขภาพจิตได้ซึ่งมีแบบประเมินมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้บุคคลสามารถตรวจสอบระดับความเครียดของตนเองได้ง่ายโดยเข้าไปทำแบบประเมินได้ที่เว็บไซต์กรมสุขภาพจิตภายในเว็บไซต์มี แบบวัดความเครียด DASS-21 และเครื่องมืออื่น ๆ ที่ช่วยวัดโรคเครียดพร้อมทั้งคำแนะนำในการจัดการความเครียดเบื้องต้น 


สรุปการทำแบบประเมินความเครียดดีไหม

แบบประเมินความเครียดเป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดระดับความเครียดของบุคคล โดยใช้แบบสอบถามที่ออกแบบมาให้ผู้ทำสามารถประเมินตนเองได้ง่าย เช่น แบบประเมินความเครียดของกรมสุขภาพจิตซึ่งช่วยให้ตระหนักถึงระดับความเครียดและแนวทางจัดการ หากพบว่ามีความเครียดสูงควรหาแนวทางผ่อนคลายหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน