ลดปัญหาใต้ตาของคุณให้ตรงจุด แก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณใต้ตาที่เกิดขึ้นกับแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ที่มีอายุมากหรือน้อยก็ตาม ดังนั้นควรจะมองหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาใต้ตาเป็นอย่างแรก ก่อนที่จะหาวิธีแก้ไขในขั้นตอนต่อไป

การแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตาต่าง ๆ นั้นก็จะมีหลายวิธี โดยที่จะกล่าวถึงต่อไปในบทความนี้ ก็คือการแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขที่ตรงจุดที่สุด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และถ้าหากผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือมีอาการแพ้ก็ยังสามารถฉีดสลาย fillerใต้ตา ออกได้ด้วยการฉีดไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) เพื่อสลายฟิลเลอร์ออกในเวลาสั้น ๆ 

สำหรับคนที่สนใจแก้ปัญหาใต้ตา ด้วยการฉีดใต้ตา หรือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อควรรู้อะไรบ้าง มาหาคำตอบได้จากบทความนี้


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาผิวหนังใต้ตาที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น, เป็นโรคภูมิแพ้ทำให้ผิวใต้ตาอักเสบ, กระดูกเบ้าตาที่เติบโตไม่ค่อยดี, การใช้สายตาที่ไม่ถูกต้องทำให้รอบดวงตาหย่อนยาน มีริ้วรอยก่อนวัย เป็นต้น

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ฉีดนั้น เป็นสารเติมผิวที่เรียกว่า “กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) HA” จะถูกฉีดตรงบริเวณที่มีปัญหาผิวหนัง อย่างไรก็ดีสารชนิดนี้จะมีความปลอดภัยสูงเพราะเป็นสารที่มีอยู่ในผิวของคนเราอยู่แล้ว สามารถย่อยสลายได้โดยเอนไซม์ในร่างกายของคนตามเวลาที่ผ่านไป

คุณสมบัติของฟิลเลอร์นั้น นอกจากอุ้มน้ำแล้ว ยังสามารถกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

อีกทั้งวิธีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะไม่สร้างรอยแผลเป็น เพราะใช้เข็มที่เล็กไม่ใช่มีดผ่าตัด และมีความเป็นธรรมชาติมาก คนไข้ไม่ต้องการพักฟื้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือช่วยให้หน้าแลดูเด็กขึ้น ผิวชุ่มชื้น สดใสมากขึ้น

ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา

ทุกวันนี้ปัญหาที่คนส่วนใหญ่จะเผชิญกันก็คือ มีปัญหาริ้วรอยใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาเหี่ยวย่น มีถุงใต้ตา ดวงตาลึกโหล ซึ่งส่งผลกับภาพลักษณ์ของบุคคลนั้น ๆ ทำให้แลดูมีสุขภาพไม่ดี ใบหน้าดูไม่สดใส ดูโทรม ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนรอบข้าง

คนเราเมื่ออายุมากขึ้นตั้งแต่ 20-40 ขึ้นไป การผลิตสาร HA กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) ตามธรรมชาติก็จะลดน้อยลงไปด้วย ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวบางลง เหี่ยวย่น และขาดความยืดหยุ่น และในที่สุดก็จะเกิดร่องลึกของวัย ทำให้ริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น ความแก่ชราก็จะปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจเป็นที่ชั้นผิวหนังตื้น ๆ เพื่อให้ผิวอยู่ห่างจากเส้นเลือดดำเพื่อลดตาดำคล้ำ ทำให้เห็นผลทันทีหลังฉีด fillerใต้ตา หรือฉีดใต้ตาที่ผิวหนังชั้นลึก ๆ เพื่อดันไขมันเบ้าตาเคลื่อนกลับที่เดิม ทำให้ถุงใต้ตาหายไป จะเห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขปัญหาได้แม่นยำ สามารถเติมได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย

ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะมันไม่ใช่แค่แก้การปัญหาใต้ตาเท่านั้น แต่การฉีดใต้ตานั้นจะสามารถช่วย

  • ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้าเพื่อรับโชคดี ช่วยให้ตาดูเต็มอิ่ม สดใส เรียบ เปล่งปลั่ง
  • ช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำ ที่ทำให้หน้าดูอ่อนล้า
  • ช่วยแก้ปัญหามีถุงใต้ตา ที่ทำให้ริ้วรอยและร่องใต้ตาเห็นชัดขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาตาลึกโหล ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ
  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ทำให้หน้าดูมีอายุมาก

นอกจากนี้ยังเห็นผลลัพธ์เป็นธรรมชาติที่ชัดเจนและรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่มีรอยแผลเป็น และไม่ต้องการพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีกลังจากผ่านกระบวนการฉีดใต้ตา

ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

ถึงแม้จะกล่าวได้ว่าทุก ๆ หัตถการมีความเสี่ยง จะเสี่ยงมากหรือน้อยก็ขึ้นกับว่าคนไข้ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือไม่ แต่ว่าเดี๋ยวนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นค่อนข้างปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย หากว่าได้เลือกทำในสถานพยาบาลที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข น่าเชื่อถือ สะอาด บริการดี

อีกทั้งทุก ๆ ขั้นตอนในการรักษาก็ทำโดยแพทย์ผิวหนัง หรือจักษุแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญมีความรู้เฉพาะทางขั้นสูง รู้ตั้งแต่เทคนิคการฉีดและตำแหน่งที่เหมาะสม พร้อมทั้งสามารถให้คำแนะนำในการเลือกใช้ฟีลเลอร์ว่าควรเป็นยี่ห้อไหน เนื้อแบบไหนที่เหมาะสมกับปัญหาใต้ตาที่เรากำลังเป็นอยู่ ฟิลเลอร์ที่นำมาเสนอ ต้องมีความปลอดภัย มีมาตรฐานรับรองที่สามารถตรวจสอบได้

โดยฟิลเลอร์แท้ที่นำเข้าจากต่างประเทศและได้รับการรับรองจาก อย.ไทย มีอยู่หลายยี่ห้อ เช่น Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha, Neuramis, Redexis เป็นต้น

และแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จะไม่เป็นอันตราย แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ซึ่งเราจะได้กล่าวต่อไปในบทความข้างล่างนี้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลอย่างไร

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้เพื่อที่จะได้ยืดอายุของ fillerใต้ตาให้อยู่ได้นาน 6-24 เดือนก่อนที่จะสลายไปตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่ทิ้งสารตกค้างภายในร่างกาย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ด้วย

หลักพึงปฏิบัติที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้แนะนำแก่คนไข้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้

  • ให้นอนหมอนสูงเพื่อลดบวมบนใบหน้าเป็นเวลา 2-3 วันหลังฉีดใต้ตา
  • ไม่ควรจับ กด นวด บริเวณใต้ดวงตาหลังฉีด fillerใต้ตา ประมาณ 2-3 วันแรกหลังฉีด เพื่อไม่ให้บวมช้ำ หรือฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด และกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์
  • ควรอยู่ในที่เย็น ๆ หลีกเลี่ยงที่ร้อน ๆ มีอุณหภูมิสูง อย่างน้อย 3 วันแรกหลังฉีดใต้ตา
  • งดใช้ยา อาหารเสริม ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลา 1 อาทิตย์
  • งดอาหารหมักดอง อาหารดิบ อาหารรสจัด เช่น หวานจัด เผ็ดจัด เพราะอาจเสี่ยงเกิดแผลอักเสบติดเชื้อ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ประมาณ 2 อาทิตย์
  • ไม่ควรทำเลเซอร์ร้อนทุกชนิดภายในช่วง 1 เดือน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลอย่างไร

ผลข้างเคียงที่มักพบได้

ร่างกายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีหรือไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นก็เป็นได้ แต่ถ้าหากว่ามีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ก็อาจมีอาการดังต่อไปนี้

  • บวมแดง เขียวช้ำ ตึงบริเวณดวงตา แต่โดยมากจะหายไปภายใน 2-3 วัน
  • บวมรอบดวงตา ดังนั้นห้ามกด กดนวด ขยี้ตาจะได้ไม่ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ แต่ควรที่จะประคบน้ำแข็งบ่อย ๆ แทน
  • มีอาการที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนอยู่ เพราะยังไม่เข้าที่ ภายใน 2 อาทิตย์แรก แต่ถ้ายังไม่หายให้รีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ผิดชนิด หรือฉีดไม่ถูกตำแหน่ง เป็นต้น
  • ใต้ตามีสีดำขึ้น หรือสีม่วงเขียว ที่เกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังแตกจนเกิดรอยช้ำ
  • มีอาการติดเชื้อ และอักเสบบริเวณดวงตา ตาแสบร้อน เจ็บ ระบม ให้รีบพบแพทย์ด่วน

สรุป

เพื่อให้กลับมามีใบหน้าอ่อนเยาว์ สดใสอีกครั้งแม้จะมีอายุมากขึ้นแล้วก็ตาม ก็ยังสามารถทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่สลายไป ช่วยลดริ้วรอย และแก้ปัญหาใต้ตาต่าง ๆ ไปพร้อมกัน เช่น ใต้ตาดำคล้ำ ลดถุงใต้ตา ทำให้หน้าดูเป็นเด็กขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นส่วนใหญ่ใช้เวลาในการทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผล เห็นผลลัพธ์ได้ทันที และอย่างเต็มที่ภายใน 2 อาทิตย์ แต่อยู่ได้นานเท่าไรนั้นก็ขึ้นกันยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และสภาพผิวหนังของคนไข้