Volnewmer คืออะไร? โปรแกรมยกกระชับผิวที่มาแรงในปี 2025!

Volnewmer

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธียกกระชับ ปรับผิวหน้าให้ดูเด็ก ดูเฟิร์ม แต่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับ Volnewmer เครื่องยกกระชับตัวใหม่ ช่วยอะไรได้บ้าง เหมาะกับใครบ้าง ทำกี่วันเห็นผล ทำจุดไหนดี พร้อมวิธีเตรียมตัวก่อนและหลังทำ Volnewmer ที่ทุกคนควรรู้! 



Volnewmer คืออะไร?

โปรแกรม Volnewmer คือ เทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวที่รวมการทำงานของคลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF (Radio-Frequency) ซึ่งจะช่วยส่งพลังงานลงลึกไปถึงชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้เกิดความร้อนในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดใต้ผิว ฟื้นฟูคอลลาเจน  และทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ลดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าและลำตัว โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่อยากหน้าเรียว เห็นผลหลังทำทันที 20-30% 


Volnewmer ช่วยอะไรได้บ้าง?

Volnewmer ดียังไง

Volnewmer คือตัวช่วยใหม่ที่ใช้พลังงาน RF ในการสลายไขมันพร้อมปรับรูปหน้าให้เข้ารูปขึ้น โดยเฉพาะจุดที่จัดการยากอย่างแก้มและเหนียง นอกจากนี้ Volnewmer ยังช่วยในเรื่องอื่น ๆ เช่น

  • ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม เหนียง กรอบหน้า
  • ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้ดูแน่น กระชับขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูฟูและเรียบเนียน
  • ทำ RF ลิฟกรอบหน้า ให้รูปหน้าชัดขึ้นแบบธรรมชาติ
  • ลดไขมันเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที

ทำ Volnewmer กี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

หลังทำ Volnewmer บางคนอาจรู้สึกได้ถึงความกระชับทันทีเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2–4 สัปดาห์ เพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ และสลายไขมันออกจากร่างกาย 

โดยผลลัพธ์ของ Volnewmer สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6–8 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลตัวเองหลังทำ ถ้ามีการบำรุงผิว ดื่มน้ำเยอะ พักผ่อนเพียงพอ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง (แล้วแต่ปัญหาของแต่ละคน) เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละครั้ง ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังจากครบคอร์สแล้ว อาจกลับมาทำซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน


ทำ Volnewmer จุดไหนดี?

Volnewmer เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลายส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะจุดที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยหรือไขมันสะสม ได้แก่

  • แก้ม / เหนียง / กรอบหน้า – ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้มและใต้คาง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ชัดขึ้น เพื่อให้รูปหน้าดูเข้ารูปแบบวีเชฟ
  • หน้าท้อง – ช่วยสลายไขมันส่วนเกินและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่อยากได้วีเชฟหน้าท้อง โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลชัดในผู้ที่มีพุงเล็ก ๆ หลังลดน้ำหนักหรือลูก
  • ต้นแขน / ต้นขา – กระชับผิวหนังบริเวณต้นแขน ต้นขาที่เริ่มหย่อน ลดความหย่อนคล้อยและทำให้ผิวดูแน่นขึ้น เหมาะกับคนที่น้ำหนักลดกระทันหัน ผิวหย่อนไม่เฟิร์ม
  • ปีกหลัง (Bra fat) / เอว / สะโพก – ช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดและปรับสัดส่วนให้สมส่วนขึ้น ทำให้เส้นเอวดูคมชัดขึ้น ลดไขมันที่ล้นออกมาด้านข้างชุดชั้นใน

วิธีการเตรียมตัวและวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Volnewmer

ถึงแม้ว่า Volnewmer จะเป็นเทคโนโลยียกกระชับและสลายไขมันที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่การเตรียมตัวให้พร้อม และการดูแลตัวเองหลังทำ ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์เช่นเดียวกัน

การเตรียมตัวก่อนทำ Volnewmer

  • พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำ ทานอาหารให้เรียบร้อย
  • แจ้งผลลัพธ์ที่ต้องการให้แพทย์ทราบ
  • แจ้งประวัติสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว การแพ้ ประวัติการฝังอุปกรณ์โลหะในร่างกาย

วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Volnewmer

  • หลังทำหัตถการ หลีกเลี่ยงการขัด สครับผิว และงดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA 5-7 วัน
  • ทา Soothing Gel ตามที่แพทย์แนะนำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ งดเลเซอร์ ชาวน่า สตีม 5-7 วัน
  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด
  • ทาครีมบำรุง มอยเจอร์ไรเซอร์ ดื่มน้ำเป็นประจำเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ควรเข้ามาทำเครื่องยกกระชับต่อเนื่อง ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อกระตุ้นให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

Volnewmer เครื่องยกกระชับรุ่นใหม่ ตัวช่วยลดไขมันพร้อมปรับรูปหน้าให้เป๊ะขึ้น!

Volnewmer เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวและสลายไขมันเฉพาะจุดที่ใช้พลังงานคลื่น RF ช่วยจัดการกับปัญหาผิวหย่อน ไขมันสะสม และรูปร่างที่ไม่กระชับ โดยไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำได้หลายจุด เช่น แก้ม เหนียง กรอบหน้า หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และเอวหลังทำ Volnewmer ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นใน 2–4 สัปดาห์ และอยู่ได้นานประมาณ 6–8 เดือน ถ้าทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้งตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยคงผลลัพธ์ให้นานยิ่งขึ้น แนะนำทำควบคู่กับการดูแลตัวเองให้เหมาะสม เช่น บำรุงผิว ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเสื่อมไว