โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ภัยเงียบคุกคามสุขภาพ โรคใกล้ตัวกว่าที่คิด

ทุกวันนี้ โรคมะเร็งกลายเป็นภัยคุกคามที่สำคัญของมนุษยชน หนึ่งในโรคมะเร็งพบได้บ่อยและน่ากลัวที่สุด คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคนี้มักจะไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้ป่วยหลายคนมารู้ตัว เมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลาม ซึ่งวิธีรักษาก็ย่อมมีความยากลำบากมากขึ้น
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตั้งแต่ปัจจัยเสี่ยง อาการควรระวัง รวมถึงวิธีป้องกันและตรวจวินิจฉัย เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพของตัวเองและคนที่รักได้อย่างเต็มที่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ คืออะไร

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer) คือโรคมะเร็งลำไส้เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในลำไส้ใหญ่ มักจะเริ่มต้นจากเกิดติ่งเนื้อก้อนเล็ก ๆ เรียกว่าโพลิป (Polyp) บนผนังด้านในของลำไส้ใหญ่ โพลิปบางชนิดสามารถกลายเป็นมะเร็งได้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งก้อนเนื้อนี้อาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้หากไม่ได้รับการรักษา
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้หลายคนไม่ทราบว่าตนเองป่วย จนกระทั่งโรคมีความรุนแรงมากขึ้น การสังเกตอาการของมะเร็งลำไส้เบื้องต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้พบแพทย์ได้ทันท่วงที
มะเร็งลำไส้ใหญ่อาการพบบ่อยและควรสังเกต
- การเปลี่ยนแปลงของอุจจาระ: เป็นอาการพบบ่อยที่สุด เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย ลักษณะอุจจาระมะเร็งลำไส้มีเลือดปน (อาจเป็นสีแดงสดหรือสีดำ) อุจจาระมีลักษณะเล็ก เรียวหรือรู้สึกถ่ายไม่สุด
- ปวดท้อง: อาจเป็นปวดท้องแบบเรื้อรัง หรือปวดแบบเฉียบพลัน โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย
- น้ำหนักลด: โดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้สึกอ่อนเพลีย: น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
- ท้องอืด: คลำพบก้อนในช่องท้อง
อาการมะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดขึ้นเฉียบพลัน ในบางกรณีโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจแสดงอาการเฉียบพลันได้ เช่น
- การอุดตันของลำไส้: เกิดจากก้อนมะเร็งไปอุดตันลำไส้ ทำให้มีอาการปวดท้องรุนแรง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระไม่ออก
- การทะลุของลำไส้: ก้อนมะเร็งอาจทะลุผนังลำไส้ ทำให้เกิดอักเสบในช่องท้อง ปวดท้องรุนแรง อาเจียน และมีไข้
- การตกเลือดในลำไส้: อาจทำให้เกิดอาการซีด อ่อนเพลีย รวมทั้งมีเลือดออกทางทวารหนัก
เมื่อใดควรพบแพทย์ หากมีอาการใดอาการหนึ่งที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งลำไส้และรักษาได้ถูกต้อง
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีกี่ประเภท
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้จะมีชื่อเรียกเดียวกัน แต่การแบ่งระยะของโรคจะขึ้นอยู่กับการลุกลามของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ หรือพิจารณาจากขนาดก้อนมะเร็ง ระดับความลึกของการลุกลามไปยังผนังลำไส้
ลักษณะของแต่ละระยะ
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 1: เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อาการระยะแรก หรือระยะเริ่มต้น เซลล์มะเร็งลุกลามลงไปในชั้นกล้ามเนื้อของลำไส้ใหญ่โอกาสรักษาให้หายขาดได้ค่อนข้างสูง มักรักษาด้วยวิธีผ่าตัดนำก้อนมะเร็งออก
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 2: เซลล์มะเร็งลุกลามทะลุผนังลำไส้ใหญ่ หรือลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียง แต่ยังไม่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง วิธีรักษาอาจรวมถึงผ่าตัด หรืออาจให้เคมีบำบัดเพิ่มเติม
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3: เซลล์มะเร็งกระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง วิธีรักษาจะซับซ้อนขึ้น อาจต้องผ่าตัดร่วมกับการให้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4: เป็นระยะที่ลุกลามมากที่สุด เซลล์มะเร็งกระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ห่างไกลจากลำไส้ใหญ่ เช่น ตับ ปอด วิธีรักษาจะมุ่งเน้นไปที่บรรเทาอาการ ยืดอายุชีวิต
วิธีรักษาแต่ละรายจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทของมะเร็งลำไส้ใหญ่ บริเวณมะเร็งเกิดขึ้น สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
ปัจจัยในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เกิดจากเซลล์ปกติในลำไส้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงและแบ่งตัวอย่างผิดปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้อ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญทำให้เกิดอาการมะเร็งลำไส้ มีหลากหลายปัจจัย ดังนี้
- อายุ: ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะในผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- พันธุกรรม: ประวัติครอบครัวมีคนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพิ่มโอกาสในการเกิดโรค
- อาหาร: บริโภคในปริมาณมาก เช่น เนื้อสัตว์แดงแปรรูป ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ หรือรับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอ
- น้ำหนัก: โรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกิน
- ออกกำลังกาย: ขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ
- สูบบุหรี่: สารพิษจากบุหรี่ทำลายเซลล์ในลำไส้ใหญ่ ทำให้เป็นสาเหตุมะเร็งลำไส้ได้
- โรคอักเสบของลำไส้ใหญ่เรื้อรัง: เช่น โครห์นหรือริดสีดวงทวาร
- พอลีปในลำไส้ใหญ่: พอลีปบางชนิดอาจกลายเป็นมะเร็งได้
แม้ว่าจะไม่สามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงบางอย่างได้ แต่สามารถลดโรคมะเร็งลำไส้ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น รับประทานอาหารมีใยอาหารสูง ออกกำลังกายเป็นประจำ และไปตรวจสุขภาพตามกำหนด
วิธีการป้องกัน เพื่อลดโอกาสในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคร้ายคุกคามชีวิต แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
- เพิ่มใยอาหาร: ใยอาหารช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดเวลากากอาหารสัมผัสกับผนังลำไส้ ทำให้ลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งได้ อาหารมีใยอาหารสูง เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี
- ลดอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน มีสารเคมีที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดมะเร็ง
- ลดเนื้อแดง: บริโภคเนื้อแดงมากเกินไป เช่น เนื้อวัว หมู อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
- เพิ่มปลา: ปลาเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีไขมันดีต่อสุขภาพ
- ลดอาหารทอดและอาหารมัน: อาหารเหล่านี้มีไขมันสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- การออกกำลังกายช่วย: ควบคุมน้ำหนัก ลดระดับอินซูลิน กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ
ลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. ควบคุมน้ำหนัก
- น้ำหนักเกินและโรคอ้วน: เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ควบคุมน้ำหนัก: ทำได้โดยควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
4. ลดดื่มแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งลำไส้ใหญ่
5. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- ตรวจคัดกรอง: เช่น ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ สามารถตรวจพบติ่งเนื้อในลำไส้ ซึ่งอาจพัฒนาเป็นมะเร็งได้ในอนาคต
6. ดูแลสุขภาพจิต
- ความเครียด: อาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็ง
- การผ่อนคลาย: เช่น ทำสมาธิ โยคะ ช่วยลดความเครียด
วิธีป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นสิ่งทุกคนสามารถทำได้ ดูแลสุขภาพดีตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในอนาคต
มะเร็งลำไส้ใหญ่ รู้ตัวไว รักษาหายได้
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคเกิดจากเซลล์ในลำไส้ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดก้อนเนื้อ หากปล่อยไว้อาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่นได้ มะเร็งลำไส้อาการเริ่มแรกไม่ชัดเจน การตรวจพบในระยะเริ่มต้น เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้สูง อย่ารอให้สายเกินไป หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์ทันที