ฟิลเลอร์ (Filler) วิธีลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก เหมาะกับปัญหาแบบไหน ควรรู้อะไรบ้างก่อนฉีด


ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการเสริมความงามและปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดโบท็อก แต่จะใช้แก้ปัญหาริ้วรอยที่แตกต่างกัน คือโบท็อกจะแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ส่วนฟิลเลอร์ จะเป็นการเติมเต็มส่วนที่เป็นร่องลึก ซึ่งทั้งสองหัตถการนี้สามารถทำร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์ ว่าเหมาะกับใคร มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง สำหรับคนที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า และกำลังมองหาตัวช่วยดี ๆ อยู่ห้ามพลาด

ฟิลเลอร์ คืออะไร?

(ฟิลเลอร์ คืออะไร)

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid (HA) ถูกผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสาร Hyaluronic Acid ที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ใช้ทดแทนคอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เป็นสารที่คลินิกความงามนิยมนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

 5 คุณสมบัติเด่น ของฟิลเลอร์ 

  1. ช่วยเติมเต็มร่องลึก เสริมโครงสร้างในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
  2. ช่วยลดริ้วรอย ชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
  3. ช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น เสริมคาง
  4. ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  5. ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์

ฟิลเลอร์ ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างไร?

ในผิวหนังของคนเรามีเส้นใยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง เมื่ออายุมากขึ้นเส้นใยต่าง ๆ จะลดลง ทำให้ผิวบาง เกิดริ้วรอยได้ง่าย เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทดแทนบริเวณที่เป็นร่องริ้วรอย จะช่วยให้หน้าเต็มขึ้น ริ้วรอยลดลง และผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

ประเภทของฟิลเลอร์

สำหรับสารเติมเต็ม สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

1. Permanent Fillers

ฟิลเลอร์แบบถาวร คือ ฉีดแล้วไม่สลาย หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย. เช่น Biosynthetic Polymers ซิลิโคนเหลว, Calcium Hydroxylapatite, Polymethylmethacrylate เมื่อฉีดแล้วจะแข็งเป็นก้อน ไหล กลายเป็นพังผืด ต้องผ่าออก หรือขูดออกเท่านั้น เป็นจำพวกที่ไม่ผ่านอย. ในประเทศไทย

2. Non Permanent Fillers

ฟิลเลอร์แบบสลายหมด คือ ฉีดแล้วจะสลายไปเองตามกลไลของร่างกาย ได้แก่สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารเติมเต็มชนิดเดียวที่ผ่านอย.ไทย มีความปลอดภัย ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย 

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?

Filler ในทางการแพทย์ทั่วโลก จะหมายถึงการฉีดสารเติมเต็ม (Injectable Filler) ทุกชนิด ซึ่งในต่างประเทศสามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท 

  1. Hyaluronic Acid ปลอดภัย สลายหมด มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก
  2. Collagen จากสัตว์ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เนื่องจากฉีดแล้วมีอาการแพ้ บวมแดงได้ง่าย
  3. Transplanted Fat การฉีดไขมัน หมาะกับคนที่ต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ 10-20 CC ขึ้นไป
  4. Biosynthetic polymers ซิลิโคนเหลว ฉีดแล้วไม่สลาย ไม่ปลอดภัยและไม่ผ่านอย.

ดังนั้นสำหรับประเทศไทศ ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย มีเพียงประเภท Hyaluronic Acid เท่านั้น หากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ฉีดแล้วสามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ก็มีความปลอดภัย ฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย 

(ฟิลเลอร์แท้)

ส่วนที่ต้องระวังคือเจอคลินิกเถื่อน หมอปลอม หรือการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดแล้วจะเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้หากฉีดกับคนที่ไม่ใช่แพทย์ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด ฉีดโดนเส้นเลือด ฉีดแล้วเกิดการอุดตัน อาจทำให้เนื้อตายหรือตาบอดได้

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

(ฟิลเลอร์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง)

บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นบนใบหน้า สามารถลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล หลังฉีดกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

  1. ฟิลเลอร์ใต้ตา
  2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  3. ฟิลเลอร์ขมับ
  4. ฟิลเลอร์หน้าผาก
  5. ฟิลเลอร์ปาก
  6. ฟิลเลอร์คาง
  7. ฟิลเลอร์จมูก

นอกจากนี้ยังมีจุดอื่น ๆ ที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ เช่น ฟิลเลอร์กราม ฟิลเลอร์หลังมือ ขึ้นอยู่กับเทคนิค ความชำนาญของแพทย์ และความต้องการของคนไข้

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฟิลเลอร์แท้ในไทยปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อย ๆ ลงไป เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์เหมาะกับการแก้ปัญหาในแต่ละบริเวณ ทั้งนี้ฉีดฟิลเลอร์แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย

ฟิลเลอร์ระยะเวลา
Juvederm Ultra Plus12 เดือน
Juvederm Voluma18 เดือน
Juvederm Volbella12 เดือน
Juvederm Volift12 เดือน
Juvederm Volite8-12 เดือน
Juvederm Volux18-24 เดือน
Restylane Perlane lyft12 เดือน
Restylane Vital Light6-12 เดือน
Restylane Vital12 เดือน
Restylane Volyme18 เดือน
Restylane Defyne18 เดือน
Restylane Refyne12 เดือน
Restylane Classic12 เดือน
Restylane Kysse12 เดือน
Belotero Intense18 เดือน
Belotero Volume18 เดือน
Belotero Soft6-12 เดือน

ข้อดี-ข้อเสีย การฉีดฟิลเลอร์

ข้อดีการฉีดฟิลเลอร์

  1. สามารถช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
  2. มีความปลอดภัย ผ่านอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้ และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
  3. หลังฉีดเห็นผลทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  4. สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย
  5. หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
  6. ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม
  7. ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น

ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ส่วนมากอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ก่อนจะสลายไปตามธรรมชาติ ดังนั้นหากอยากรักษาผลลัพธ์ไว้ต้องฉีดฟิลเลอร์ใหม่เรื่อย ๆ

ข้อปฏิบัติตัวก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

(ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์)

  1. ศึกษาข้อมูล เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. ศึกษาวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ สามารถตรวจสอบฟิลเลอร์เองได้ก่อนฉีด เพื่อความปลอดภัย
  3. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงด ได้แก่ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, Ginko biloba, Primrose oil, Garlic, Ginseng และ Vitamin E
  4. งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
  5. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
  6. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

(ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์)

  1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์
  2. อยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  3. งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  4. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
  5. งดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์,อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู, อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง, อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
  6. อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน หากหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อคลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
  7. คลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวม สามารถทานเพื่อบรรเทาอาการได้
  8. งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ยุบวมและเข้าที่ช้า

ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์อาการบวมและรอยแดงจากเข็ม จะหายไปเองได้ใน 2-3 วัน เมื่อผ่านไป 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 100%

ราคาฉีดฟิลเลอร์

ราคาฉีดฟิลเลอร์ในปัจจุบัน มีตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ปัจจัยที่ทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ เช่น แบรนด์จากเกาหลี ก็จะราคาถูกกว่าฟิลเลอร์จากยุโรป นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เทคนิคของแพทย์ รวมไปถึงราคาโปรโมชั่นในแต่ละคลินิกที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ไม่ควรหาซื้อฟิลเลอร์มาฉีดเอง หรือฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมาก ๆ โดยราคาต่ำกว่าคลินิกในตลาดมากเกินไป เพราะอาจเจอฟิลเลอร์ปลอมได้

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? 

  1. ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. แพทย์มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง
  3. ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น หมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า ราคาสมเหตุสมผล
  4. ดูรีวิวจริงจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้ เป็นกลาง คลินิกไม่สามารถลบและแก้ไขได้
  5. คลินิกต้องมีการติดตามผลหลังฉีดทุกครั้ง แนะนำการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม
  6. สถานที่ การเดินทาง ที่จอดรถมีความสะดวก สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างตรงจุด เห็นผลไว ไม่ต้องเจ็บตัว สามารถแต่งหน้าและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์และมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด