ปลูกผม FUE รักษาผมบางได้อย่างมั่นใจ ไม่ง้อผ่าตัด

เมื่อเราอายุมากขึ้น บางคนอาจพบว่าเส้นผมเริ่มมีอาการหลุดร่วงและผมบางลง บ้างก็ประสบปัญหาหน้าผากสูงหรือหน้าผากกว้างกว่าปกติ ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับหลายๆ คน โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องพันธุกรรม โรคภัยร้ายแรง หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลกับสุขภาพผม 

ในปัจจุบันมีวิธีรักษาผมบางหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมไปถึงวิธีการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผมมีความหนาขึ้น โดยที่บริเวณที่ทำการปลูกผมจะสามารถอยู่ได้ถาวร และเกิดผลข้างเคียงจากการผ่าตัดค่อนข้างน้อย 

บทความนี้จะกล่าวถึงการปลูกผม FUE ว่ามีลักษณะอย่างไร? มีขั้นตอนวิธีการอย่างไรบ้าง? สามารถช่วยรักษาผมร่วงได้จริงหรือไม่? ตลอดจนการพักฟื้นหลังการผ่าตัดปลูกผม เพื่อเตรียมตัวก่อนการเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

ปลูกผม FUE คืออะไร แตกต่างจาก FUT อย่างไร

ปลูกผม FUE คืออะไร

การปลูกผม FUE (FUE Hair Transplant) ย่อมาจาก Follicular Unit Extraction คือวิธีการปลูกผมวิธีหนึ่งสำหรับการรักษาอาการผมร่วงผมบางที่เป็นที่นิยม โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีขนาดเล็ก นำมาเจาะเอาเส้นผม (มักนิยมใช้ผมในบริเวณท้ายทอย) ไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ต้องการ โดยที่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อหรือชั้นผิวหนังโดยรอบ จึงทำให้เป็นวิธีที่แทบจะมองไม่เห็นแผลหลังการปลูกผมเลย

และเมื่อเก็บเซลล์รากผมออกมาได้แล้ว แพทย์จะทำการปลูกถ่ายผมกลับไปยังบริเวณที่ต้องการอย่างระมัดระวัง ในขั้นตอนนี้แพทย์ต้องใช้ความแม่นยำในการปลูกผมอย่างมาก โดยการปลูกถ่ายจะต้องวางตำแหน่งความถี่ของเส้นผมไว้อย่างเหมาะสม รวมไปถึงองศาในการปลูกเส้นผมให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง

นอกจากการปลูกผม FUE อันที่จริงแล้วยังมีการปลูกผมอีกวิธีหนึ่งที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือการปลูกผมแบบ FUT โดยชื่อที่คล้ายคลึงกันนี้อาจทำให้เกิดความสับสนว่าการปลูกผม FUE กับ FUT แตกต่างกันอย่างไร การปลูกผม FUT นั้นจะมีหลักการการปลูกถ่ายผมจากตำแหน่งหนึ่งไปยังตำแหน่งที่ต้องการเหมือนกับการปลูกผม FUE แต่แบบ FUT จะต่างกันตรงขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผม โดยแบบ FUT จะเป็นการผ่าตัดเพื่อนำส่วนของชั้นผิวหนังศีรษะออกมาด้วย แล้วจึงค่อยนำชิ้นส่วนหนังศีรษะนั้นมาทำการตัดแยกเซลล์รากผมออกจากกัน 

ดังนั้นในภาพรวมการปลูกผม FUE กับ FUT มีหลักการการปลูกถ่ายผมลักษณะเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันด้วยวิธีการเก็บเกี่ยวกอผม ซึ่งจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากการปลูกผม FUE จะใช้วิธีการเจาะจึงทำให้เป็นแผลขนาดเล็กมากๆ แต่ในขณะเดียวกันการปลูกผม FUT จะทำให้เกิดแผลแบบลักษณะแผลตัดเย็บที่มีขนาดใหญ่กว่า สามารถมองเห็นได้ชัดเจนกว่า และอาจเห็นเป็นรอยแผลเป็นหากตัดผมสั้น

ส่วนบางคนอาจเคยได้ยินการปลูกผม Long Hair FUE ซึ่งเป็นชื่อเรียกเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ที่มีจุดเด่นไม่เหมือนวิธีอื่นๆ คือการใช้ผมที่ยาวอยู่โดยไม่ต้องตัดผมให้สั้นก่อน เพราะโดยปกติแล้วแพทย์จะต้องทำการโกนผมในบริเวณที่ต้องการนำไปปลูกถ่ายก่อนจะทำการผ่าตัดนั่นเอง วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการปลูกผม แต่ไม่อยากรอให้ผมงอกใหม่เป็นเวลานานนั่นเอง

ปลูกผม FUE ช่วยรักษาผมร่วงได้จริงไหม

หลายคนอาจมีความกังวลว่าปลูกผม FUE ไม่ขึ้น หรือว่าปลูกผมแล้วผมจะอยู่ได้ถาวรหรือไม่ การปลูกผม FUE นั้นเป็นการย้ายเซลล์ต่อมรากผมจากตำแหน่งหนึ่ง ไปยังตำแหน่งที่ต้องการจะรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ซึ่งหลังจากการผ่าตัดปลูกผมอาจไม่เห็นผลทันที และยังอาจพบอาการผมร่วงในบางจุดที่เพิ่งปลูกผมใหม่ หากเกิดอาการเหล่านี้ยังไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากเป็นธรรมดาของวงจรการเกิดของเส้นผม โดยผมที่หลุดร่วงไปจะเริ่มงอกออกมาใหม่ภายในระยะเวลา 3-4 เดือน และจะโตเต็มที่เมื่อผ่านไปประมาณ 1-1.5 ปี หลังจากนั้นผมที่ได้รับการปลูกจะคงอยู่ถาวร การปลูกผม FUE จึงสามารถช่วยรักษาผมร่วงได้จริง

แต่อาจมีกรณีที่การรักษาไม่ได้ผล เนื่องจากหลังการปลูกผมผู้เข้ารับการรักษาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ในระยะเวลาหลังการปลูกผม FUE บริเวณเซลล์รากผมที่ได้รับการปลูกใหม่จะมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก หากได้รับการกระทบกระเทือนมากเกินไป จะส่งผลให้ผมที่ปลูกใหม่หลุดร่วงออกไป โดยข้อควรปฏิบัติหลังการปลูกผม FUE เบื้องต้นมีดังนี้

  • ห้ามจับ แคะ แกะ เกา บริเวณที่ปลูกผมโดยเด็ดขาด
  • การสระผมควรใช้ยาสระผมที่มีฤทธิ์อ่อน และปฏิบัติตามวิธีที่แพทย์แนะนำ
  • หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬา และการว่ายน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์

นอกจากนี้อาจเกิดจากการบริโภคยาบางชนิด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยก่อนการปลูกผม

ทั้งนี้ผู้ป่วยบางรายไม่เหมาะสำหรับการปลูกผม FUE ด้วยข้อจำกัดต่างๆ เพราะจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่สามารถเข้ารับการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยวิธีนี้ได้ เช่น

  • ผู้ป่วยที่หัวล้าน หรือมีอาการผมร่วง ผมบาง ทั่วทั้งศีรษะ
  • ผู้ป่วยโรคร้ายแรง เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการเลือดหลุดไหลช้า หรือผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็นต้น
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะผิวหนังศีรษะอักเสบ หรือมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

ผ่าตัดปลูกผม FUE เจ็บไหม

ปลูกผม FUE เจ็บไหม

หลายคนที่เห็นภาพการปลูกผม FUE และวิธีการปลูกผม FUE มักจะเกิดความกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่ โดยปกติแล้วก่อนจะเริ่มขั้นตอนการเก็บเกี่ยวกอผมออกมา ทางแพทย์จะต้องมีการฉีดยาชาให้กับผู้ป่วยในบริเวณที่ต้องการเก็บเกี่ยว โดยอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในขณะฉีดยาชาเท่านั้น ดังนั้นในระหว่างการนำกอผมออกมา ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บเลย และแพทย์จะมีการฉีดยาชาให้อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะนำเซลล์รากขนเหล่านั้นไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ต้องการ ผู้ป่วยจึงไม่รู้สึกเจ็บตลอดทั้งกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปลูกผม FUE เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อฤทธิ์ของยาชาหมดลงไป ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย แต่โดยส่วนมากแล้วแพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดให้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นเป็นระยะประมาณ 1-3 วัน และจะหายปวดไปเอง โดยไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ปลูกผม FUE จะมีแผลเป็นหรือเปล่า

นอกเหนือจากอาการปวด หลายคนอาจเกิดความสงสัยเกี่ยวกับแผลเช่นเดียวกัน อาจเกิดความกังวลว่าหลังจากปลูกผม FUE แล้ว จะเกิดร่องรอยแผลเป็นเป็นจุดๆ ทิ้งไว้บนศีรษะหรือไม่ คำตอบคือจะไม่เกิดรอยแผลเป็น เนื่องจากกระบวนการปลูกผมแบบ FUE ใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กในการเจาะ แผลจึงมีขนาดเล็กมาก ไม่เหมือนการผ่าตัดที่จะทิ้งร่อยรอยแผลตัดเย็บไว้ 

ระยะเวลาพักฟื้นของการปลูกผม FUE นานไหม

ปลูกผม FUE พักฟื้นนานไหม

หลังจากการปลูกผม FUE สำเร็จ จะใช้เวลาพักฟื้นไม่นานประมาณไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ ในการที่แผลจากการปลูกผมจะแห้ง ตกสะเก็ด และหลุดร่อนออกไปเองตามธรรมชาติ โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น 

หลังจากนั้น 1 เดือนก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก่อนที่เส้นผมที่ได้รับการปลูกใหม่นั้นหลุดร่วง และงอกขึ้นมาใหม่ตามวงจรการเติบโตของเส้นผม โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 1 ปี ที่เส้นผมจะเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และคงทนถาวร โดยในระหว่างนั้นแพทย์อาจนัดพบเพื่อติดตามผลลัพธ์เป็นระยะ ให้มั่นใจได้ว่าการปลูกผมจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

สรุปการปลูกผม FUE ช่วยรักษาผมบางได้จริงหรือไม่ 

การปลูกผม FUE คือวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสำหรับการรักษาอาการผมบาง ผมร่วง หรือผู้ที่มีลักษณะหน้าผากกว้าง หน้าผากสูง การปลูกผม FUE สามารถช่วยลดอาการผมบางได้จริง เป็นวิธีที่มีผลกระทบน้อย และไม่สร้างรอยแผลเป็นทิ้งไว้อีกด้วย อย่างไรก็ดีผู้ที่สนใจการปลูกผม FUE ควรศึกษาทำความเข้าใจกระบวนการรักษาและข้อจำกัดต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการปลูกผม และเลือกคลินิคเวชกรรมที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการปลูกผมจะได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจมากที่สุด