|

9 เคล็ดลับ วิธีลดน้ำตาลในเลือด โดยไม่ต้อง กินยา

ภาวะน้ำตาลในเลือดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วิธีลดน้ำตาลในเลือด ดีจึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการ

ใช้ชีวิตในเรื่องการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน และตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ

วิธีลดน้ำตาลในเลือด

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงคืออะไร

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia)ได้แก่ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินกว่าเกณฑ์ค่าปกติ คือ มากกว่า 99 มก./ดล.หลังอาหาร 8 ชม.  และ เกิน 140 มก./ดล. หลังมื้ออาหาร 2 ชม.

 ผู้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมักมีสาเหตุมาจากโรคเบาหวานเป็นหลัก เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นมีระดับ

น้ำตาลสูงขึ้นได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้การควบ

คุมระดับน้ำตาลผิดปกติ ต่างจากคนทั่วไปที่ฮอร์โมนอินซูลินจะถูกผลิตและหลั่งจากตับอ่อนหลังมื้ออาหาร

โดยทำหน้าที่เป็นตัวนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายเพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน ส่งผลให้

ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในระดับปกติ 

อันตรายจากน้ำตาลในเลือดสูง

หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจเสี่ยงเกิด

ภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายตามมา เช่น

  • การทำงานของไตเสื่อมลงจนอาจเกิด ไตวาย
  • โรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง

หรือโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน

  • เส้นประสาทถูกทำลายและทำงานผิดปกติ ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เจ็บเหมือนเข็มทิ่ม

และการรับรู้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป

  • โรคทางตาหรือเกิดความผิดปกติกับดวงตาที่เรียกว่าเบาหวานขึ้นตา เช่น จอประสาทเสียหาย

โรคต้อหิน โรคต้อกระจก เป็นต้น

  • ผิวหนังเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับเท้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลายและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก เช่น เท้า

ติดเชื้อ หรือไร้ความรู้สึก บางรายอาจรุนแรงจนต้องตัดขาทิ้ง

  • เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อ

โรคฟันและเหงือก

วิธีลดน้ำตาลในเลือด

9 วิธีลดน้ำตาลในเลือด เพื่อร่างกายที่แข็งแรงในระยะยาว

เนื่องจากความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล การลดน้ำตาลในเลือดจะพิจารณาจากสาเหตุที่ทำให้เกิด

ความรุนแรงและความเสี่ยงด้านสุขภาพของแต่ละคนเป็นหลัก

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร

ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและดื่มน้ำให้มากขึ้น  แพทย์หรือนักโภชนาการจะช่วย

ดูแลและให้คำแนะนำด้านการกินอาหารที่ถูกต้อง เช่น ลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต

หรือดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะน้ำจะช่วยขจัดน้ำตาลออกจากร่างกายผ่านทาง

ปัสสาวะและป้องกันภาวะขาดน้ำ

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน วันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มการใช้พลังงาน ทำ

ให้น้ำตาลถูกน้ำออกมาใช้ แต่ผู้ที่โรคประจำตัวบางชนิด ควรระมัดระวังในการเลือกประเภท

ของการออกกำลังกาย โดยอาจขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน แต่การออกกำลังกายนั้นต้อง

ได้เหงื่อ เพราะถ้าไม่ได้เหงื่อก็ไม่ได้ผล

  1. ระมัดระวังระดับน้ำตาลในร่างกาย

ควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นสิ่งสำคัญที่

ช่วยควบคุมอาการไม่ให้แย่ลง การจดบันทึกและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ จะ

ช่วยให้แพทย์ติดตามการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. งดเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ และบุหรี่

งดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพราะมันทำให้อาการจากระดับน้ำตาลในเลือดรุนแรงขึ้น

  1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง

เลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง นวัตกรรมใหม่สามารถสร้างโปรตีนจากพืชแทนสัตว์

เน้นอาหารที่ปลอดไขมันทรานส์ สด สะอาด ปลอดภัย และหาซื้อได้สะดวกและแน่นอน

เน้นทานอาหารที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เช่น พวกกระเทียม แอปเปิ้ลสีเขียว สำไย เป็นต้น

  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อทำให้ร่างกายสดชื่น  เพราะถ้าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำ

ให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง ส่งผลให้รู้สึกอยากของหวาน

  1. ลดอารมณ์เครียด

หลีกเลี่ยงความเครียด ซึ่งเป็นต้นเหตุของทุกโรค ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นให้

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เพราะฮอร์โมนคอร์ติซอ (ฮอร์โมนที่ทำให้อยากของหวาน) และ

ฮอร์โมนกลูคากอน (ที่ทำหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เพิ่มกลูโคสในกระแสเลือด) จะหลั่ง

ออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจข้นเฉียบพลัน

  1. จัดแบ่งการทานอาหาร

แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยขึ้น เพราะถ้าเป็นมื้อใหญ่ จัดเต็ม จะเสี่ยงต่อการได้รับ

อาหารมากเกินไป แต่ถ้าเป็นมื้อเล็ก ๆ ระหว่างวัน จะสามารถบริหารระดับน้ำตาลเข้าร่างกาย

ได้น้อยลงไปด้วย

  1. ทานอาหารบำรุงที่มีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาล

กินยาบำรุงสมุนไพรเพื่อลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งในที่นี้เราขอแนะนำ สมุนไพรจีน ‘ถั่งเช่า’ ที่เป็น

วัตถุดิบจากธรรมชาติ สามารถทานต่อเนื่องได้ ไม่มีผลข้างเคียง ทำให้ภูมิต้านทานดีขึ้น

บำรุงการทำงานของไต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่ม oxygen ในการไหลเวียนเลือด

หรือ สามารถนำถังเช่าอบแห้งมาต้มรวมกับน้ำซุปในแกงจืด หรือตุ๋นกับเนื้อหมู เหมือนเป็น

สมุนไพรจีนอย่างหนึ่ง หรืออาจนำไปชงดื่มเป็นชาก็ได้

วิธีลดน้ำตาลในเลือด

สรุป

ระดับน้ำตาลในเลือด เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นการป้องกันที่ดีจึงอยู่ที่ความใส่ใจใน

เรื่องการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รักษา

สุขอนามัยพื้นฐานและตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ควรต้องระมัดระวัง และหลีกเลี่ยง

“น้ำตาลในเลือดสูง อย่าเบาใจ เพราะเสี่ยง เบาหวาน”