|

ภัยเงียบอาการปวดหลัง สัญญาณอันตราย รู้ก่อน รักษาได้

อาการปวดหลังนับได้เลยว่าแทบจะเกิดขึ้นไได้กับทุกเพศทุกวัยโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งอาการของการปวดหลังเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปวดหลังส่วนบน ปวดหลังช่วงล่าง ปวดหลังช่วงเอว ปวดหลังจุกกลางอก ปวดหลังเฉพาะผู้หญิงที่มักเป็นในช่วงเป็นประจำเดือน จนไปถึงอาการปวดหลังอื่นๆ

โดยอาจมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ หรือเกิดจากความผิดปกติของร่างกายแล้วส่งผลกระทบต่อมาบริเวณหลัง ทั้งนี้อาการปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน หรือในบางรายมีอาการปวดหลังเรื้อรังอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปอาการทวีรุนแรงขึ้นจนมีผลต่อการชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถรู้เท่าทันต่ออาการปวดหลังที่เกิดขึ้น สาเหตุและที่มาของอาการ รวมไปถึงข้อสงสัยต่างๆที่มักพบได้บ่อย ในบทความนี้จึงรวบรวมมาให้ทำความเข้าใจถึงอาการปวดหลัง อีกทั้งวิธีช่วยบรรเทาอาการปวดหลังแและการรักษาที่ถูกวิธีอีกด้วย

อาการปวดหลัง เกิดจากอะไร

อาการปวดหลัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากอวัยวะบริเวณหลังหรือจากบริเวณอื่นๆแล้วมากระทบถึงบริเวณหลังได้ ซึ่งอาการเบื้องต้นเป็นอาการปวดเมื่อยทั่วไปจนไปถึงระดับอาการรุนแรงตามสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ และโดยแต่ละตำแหน่งของอาการปวดหลังนั้นเองก์สามารถบอกได้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดได้ด้วย ดังนี้

อาการปวดหลังส่วนบน

มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมชอบก้มเล่นโทรศัพท์มือถือนานๆ นั่งหลังค่อม หรือยกของที่มีน้ำหนักมาก รวมไปถึงชอบสะพายสัมภาระหนักๆไว้บนบ่าข้างเดียว ซึ่งมีผลอย่างมากโดยฌแพาะผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องยกของหนักๆหรือต้องก้มหัวเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนทำงานหนักขึ้น ในระยะยาวจะมีอาการปวดคอและอาการไหล่เอียงในผู้ชอบสะพายกระเป๋าข้างเดียว

อาการปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดหลังช่วงเอว

อาจมีสาเหตุมาจากการที่ยืนหรือนั่งเป็นเวลานานเกินไป เป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยในโรคออฟฟิศซินโดรม และอีกส่วนหนึ่งคือภาวะของน้ำหนักตัวที่มากเกินไปรวมถึงจากอาการปวดประจำเดือนก็เป็นสาเหตุของอาการปวดส่วนนี้ได้เช่นกัน

อาการปวดหลังด้านซ้าย

สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะน้ำหนักเกินไป พฤติกรรมจากท่านั่งหรือท่ายืนที่ไม่ถูกต้อง การปวดหลังจากตามอายุ ปวดหลังจากการตั้งครรภ์ การปวดหลังจากอาการป่วยหรืออาการกล้ามเนื้อฉีกขาด รวมไปถึงจากโรคงูสวัดที่ส่งผลต่อเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดหลัง

อาการปวดหลังข้างขวา

เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากการนั่งเป็นเวลานาน ยกของที่มี่น้ำหนักมากผิดท่า ภาวะน้ำหนักมากเกินไป ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ การไม่ออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนหลังก้เป็นหนึ่งใส่สาเหตุที่ทำให้ปวดหลังได้ รวมไปถึงความผิดปกติของอวัยวะภายใน เช่น โรคเกี่ยวกับปอด โรคติดเชื้อในกระดูก หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคไต โรคนิ่ว การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

และนอกจากจะสังเกตได้จากตำแหน่งที่เกิดอาการปวดหลังได้แล้ว ยังสามารถแบ่งตามอาการการปวดหลังได้อีกเช่นกัน

  • ปวดหลังจากการยกของหนัก อาจจะเกิดจากการอักเสบกล้ามเนื้อ
  • ปวดหลังแบบเมื่อยล้า อาจเกิดจากกล้ามเนื้อทำงานหนัก หรือเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อ
  • ปวดกลังร่วมกับอาการชา อาจเกิดจากระบบเส้นประสาทผิดปกติ
  • ปวดหลังร้าวแบบไฟฟ้าช็อต อาจเกิดจากที่เส้นประสาทถูกกดเบียด
  • ปวดหลังตามแนวกระดูกกลางหลัง ซึ่งอาจมีสาเหตุที่หมอนรองกระดูกสันหลัง หรือตามข้อต่อของกระดูกสันหลัง
  • ปวดหลังเยื้องออกมาด้านข้าง อาจเกิดจากกล้ามหลัง

อาการปวดหลังไ่มว่าจะเพศไหนวัยไหนก็สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่จำกัดเพียงในวัยผู้สูงอายุ แต่ยังรวมไปถึงวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือมีความผิดปกติของอวัยวะหรือสรีระร่างกายและโรคที่ส่งผลต่อบริเวณหลังก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน อีกทั้งผู้ที่ประกอบอาชีพบางประเภทที่ใช้ร่างกายทำงานอย่างหนัก หรือการที่ต้องนั่งเป็นเวลานานจนเป็นปัจจัยให้เกิดอาการปวดหลัง และรวมไปถึงนักกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายเป้นประจำอีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการปวดหลังมีได้ ดังนี้

  • ภาวะโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
  • การนั่ง การยืน หรือการเดินที่ไม่เหมาะสม
  • การนอนผิดท่า หรือการนอนบนเตียงที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
  • การยกของที่มีน้ำหนักมากด้วยวิธีที่ผิด
  • การเล่นกีฬา
  • การสูบบุหรี่
  • การเกิดอุบัติเหตุ

อาการปวดหลังบอกโรค อะไรได้บ้าง

ในบางคนคิดเพียงว่าอาการปวดหลังเป็นเพียงอาการเล็กน้อยสามารถทานยารักษาก็สามารถหายได้ จนละเลยไปว่าอาการปวดหลังอาจเป็นสัญญาณที่กำลังเตือนถึงของความผิดปกติของร่างกายที่จะนำไปสู้โรคภัยไขเจ็บได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการเกิดขึ้นจึงไม่ควรละเลยและควรสังเกตอาการปวดหลังที่เกิดขึ้น

อาการปวดหลังแบบบริเวณกว้าง

ส่วนใหญ่อาการปวดหลังแบบนี้เกิดได้จากการที่ใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป เล่นกีฬาหนัก หรือการเกิดอุบัติเหตุบริเวณหลังจนทำให้เกิดกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน อาการทั่วไปที่พบคือมีการปวดหลังเฉียบพลัน ปวดหลังเกร็งตึงหลัง จนไม่สามารถก้มหรือแอ่นหลังไม่ได้ ซึ่งอาการมีบริเวณกว้าง ระบุตำแหน่งที่ชัดเจนไม่ได้ ซึ่งจะมีอาการคล้ายกับหมอนรองระดูกทับเส้นประสาท แต่จะไม่มีอาการของการปวดร้าวลงขา

อาการปวดหลังหายใจไม่สะดวก

เป็นอาการปวดหลังช่วงบนที่มีความสัมพันธ์กับปอดและกระดูกซี่โครง ซึ่งอาจเกิดโรคเกี่ยวกับปอด เช่น ปอดอักเสบ ปิดติดเชื้อ หรือภาวะอื่นๆอย่างกระดูกซี่โครงอ่อนอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น

อาการปวดหลังเรื้อรัง

เกิดได้จากการนั่งหรือยืนที่ไม่เหมาะสมมาเป็นเวลานาน จนทำให้กล้ามเนื้ออักเสบจนเกิดอาการปวดหลัง ปวดสะบักและปวดคอ ซึ่งจะมีโอกาสนำไปสู่ภาวะออฟฟิศซินโดรม

อาการปวดหลังเหนือเอว

สามารถเกิดจากได้จากความผิดปกติของอวัยวะภายใน และส่งสัญญาณเตือนในรูปแบบของอาการปวดหลัง ในบางครั้งอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย เช่น โรคไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่ว โรคกระเพาะ มดลูกอักเสบ เป็นต้น

ปวดหลังขนาดไหน จำเป็นต้องไปพบแพทย์

ปวดหลังขนาดไหน จำเป็นต้องไปพบแพทย์
ปวดหลังขนาดไหน จำเป็นต้องไปพบแพทย์

อาการปวดหลังมักโดนมองข้ามอยู่เป็นประประจำเพราะอาการที่ไม่รุนแรง แต่คงเป็นที่น่าสงสัยว่าอาการอาการปวดหลังแบบไหนที่ควรต้องไปพบแพทย์ ดังนั้นจึงมีข้อสังเกตให้ลองพิจารณาตามลักษณะ อาการดังต่อไปนี้

  • มีอาการปวดหลังเฉียบพลันจากการยกของที่มีหนักมาก หรือจากการเกิดอุบัติเหตุ
  • มีปวดหลังอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
  • จุกกลางอกปวดหลัง
  • มีอาการปวดหลังมากจนไม่สามารถนอนไม่ได้
  • มีอาการปวดหลังร่วมกับอาการชา ไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างปกติ
  • ปวดหลังหายใจไม่สะดวก และอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย
  • ปวดหลังมากจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

วิธีแก้ปวดหลัง เบื้องต้น

ในกรณีที่อาการปวดหลังไม่ได้มีความรุนแรงมากหรือมีอาการเฉพาะแพทย์ต้องวินิจฉัยก็สามารถใช้วิธีเบื้องต้นบรรเทาอาการปวดหลังที่ไม่มีความอันตรายต่อร่างกาย โดยทำตามได้ดังนี้

  • ใช้ครีมทาแก้ปวด หรือรับประทานยาแก้ปวด แก้อักเสบ หรือใช้แผ่นแปะแก้ปวด ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วๆไป
  • ใช้ประคบร้อนเพื่อช่วยบรรเทาการปวดกล้ามเนื้อ
  • ใช้ประคบเย็นเพื่อลดอาการการบวมหรือการอักเสบ
  • สำหรับผู้หญิงทีปวดหลังจากการมีประจำเดือน สามารถใช้การประคบร้อนหรือการรับประทานยาเพื่อช่วยแก้ปวด
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวัน เช่น ไม่นั่งหรือยืนนนานเกินไปหรืองอหลัง พยายามปรับบุคลิกไม่นั่งไขว่ห้าง ไม่ยกของหนักเกินกำลังตัวเองหรือใช้วิธียกที่ผิด
  • ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น การเลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ให้มีความเหมาะสมกับสรีระร่างกาย
  • ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ส่วนหลัง
  • การแก้อาการปวดหลังด้านซ้ายและด้านขวา อาจใช้วิธีการบริหารเพื่อช่วยยืดกล้ามเนื้อ

การรักษาอาการปวดหลัง

แนวทางการรักษาอาการปวดหลังมีอยู่หลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่แต่ละอาการของบุคคลโดยจะแบ่งได้ตามอาการของโรค และในการรักษาจะสามารถแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ได้แก่ การรักษาอาการปวดหลังแบบไม่ต้องผ่าตัด และการรักษาอาการปวดหลังแบบผ่าตัด

การรักษาอาการปวดหลังแบบไม่ต้องผ่าตัด

เป็นวิธีการที่แพทย์มักเลือกใช้รักษาอาการปวดหลัง โดยวิธีที่จะใช้ก็จะขึ้นกับอาการปวดด้วยว่าเหมาะกับวิธีไหนที่สุด
การฉีดยา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังแบบเรื้อรัง โดยแพทย์จะมีประเมินสาเหตุของอาการปวดแล้วจ่ายยาชาและยาสเตียรอยด์ที่จะฉีดไปบริเวณเส้นประสาทหรือส่วนข้อต่อนั้นเพื่อลดอาการบวมหรือการอักเสบของเส้นประสาท
การทำกายภาพบำบัดปวดหลัง โดยการบำบัดจะมีการใช้ท่ากายบริหารหรือใช้เครื่องมือกายภาพบำบัด และรวมไปถึงวิธีการจัดกระดูกโดยจะมีนักกายภาพบำบัดมาดูแล

การรักษาอาการปวดหลังแบบผ่าตัด

การรัการด้วยการผ่าตัดจะต้องให้แพทย์วินิจฉัยแล้วว่ามีความจำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้น โดยจะเป็นบุคคลที่อาจได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล หรืออาจมีอาการปวดหลังที่รุนแรงขึ้น

ท่าบริหารหลัง แก้อาการปวดหลังด้วยตัวเอง

ท่าบริหารหลัง
ท่าบริหาร กายภาพปวดหลังด้วยตัวเอง

สาเหตุข้องนึงของอาการปวดหลังที่ใครมักมองข้ามกันก็คือกล้ามเนื้อหลังที่ไม่แข็งแรง จึงเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเกิดกล้ามเนื้ออักเสบได้ง่าย และมักใช้วิธีรักษาอาการปวดหลังที่ปลายเหตุแทน ดังนั้นแล้วเพื่อแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุของอาการปวดหลังคือการสร้างกล้ามเนื้อหลังให้มีความแข็งแรง โดยมีท่าบริหารส่วนหลังเบื้องต้นมาแนะนำ ดังนี้

วิธีแรกเริ่มจากนอนหงายราบไปกับพื้น ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างเข้าหาตัว แล้วค่อยๆใช้มือดึงเข่าเข้าหาตัวจนรู้สึกตึงบริเวณสะโพก ค้างท่านี้ไว้ประมาณ 10 วินาทีก่อนปล่อยกลับสู่ท่าเดิม โดยทำซ้ำเช่นนี้ประมาณ 5 ครั้ง
คล้ายกับท่าแรกโดยนอนหงายราบไปกับพื้น ยกเข่าขึ้น 1 ข้างแล้วค่อยๆใช้มือดึงเข่าเข้าหาตัวให้ได้มากที่สุด ทำท่านี้ค้างเอาไว้ประมาณ 10 วินาที และทำการสลับเข่าอีกข้าง ทำซ้ำข้างละ 10 ครั้ง
นอนหงายราบไปกับพื้นเช่นเดิม แต่เหยียดขาตรง แล้วขยับข้อเท้าทั้งสองข้างขึ้นลง เป็นจำนวน 10 ครั้ง โดยการทำจะรู้สึกค่อนข้างตึงบริเวณสะโพก
นอนหงายราบไปกับพื้นที่ไม่แข็งมากหรือไม่นุ่มจนเกินไป จากนั้นเหยียดแขนทั้งสองข้างโดยอยู่ข้างลำตัวไว้ และทำการเกร็งหน้าท้องไว้ 10 วินาที พักเว้นระยะ และเกร็งต่อ 10 วินาที ทำซ้ำประมาณ 2-3 รอบ
ในที่นี้จะช่วยแก้อาการปวดหลังด้านล่างได้โดยนั่งขัดสมาธิ แล้วขันเข่าขวาขึ้น ส่วนมือด้านซ้ายจับที่ท้ายทอย ส่วนมือขวาวางไว้กับพื้น และบิดตัวไปด้านขวา ทำค้างไว้ 8 วินาที โดยจะรู้สึกตึงเล็กน้อยแล้วกลับสู่ท่าเดิม ก่อนจะสลับมาอีกด้ายโดยมือด้านซ้ายวางบนพื้น ส่วนมือด้านขวาจับท้ายทอย และบิดตัวไปทางซ้าย ทำแบบนี้สลับกันไปมาอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับอาการปวดหลัง

นอนแล้วปวดหลังเกิดจากอะไร

สาเหตุอันดับต้นๆของการตื่นขึ้นมาแล้วปวดหลัง คือ ฟูกนอนและหมอน เพราะฟูกที่ใช้นอนเป็นที่รองรับร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณแผ่นหลังเป็นสิ่งสำคัญมาก และหมอนที่รองรับกระดูกต้นคอด้วยเช่นกัน หากนุ่มเกินไปก็อาจจะทำให้ร่างกายต้องเกร็งอยู่ตลอดเวลาการนอนจนเกิดอากรปวดหลังช่วงล่างขึ้นได้ ยังรวมไปถึงท่าทางการนอนของเรา ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ถ้าหากนอนผิดท่าก็จะส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง ใรบางครั้งอาจมีอาการปวดคอร่วมด้วย

นอนแล้วปวดหลัง ทำไงดี

อาการที่เกิดขึ้นนี้สามารถสังเกตได้จากฟูกที่นอนหรือหมอนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีความนุ่มเกินไปหรือแข็งเกินไปไหม ซึ่งการแก้ไขปัญหาคือเปลี่ยนมาใช้ฟูกที่นอนที่มีความพอดี ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป และหมอนควรเลือกความสูงที่เหมาะกับสรีระของร่างกาย หนุนแล้วพอดี ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป และที่สำคัญท่านอนที่นอนอยู่เป็นประจำเป็นท่าที่เหมาะสมหรือไม่ หากไม่ ควรปรับท่าให้เหมาะสมเพื่อป้องกันอาการปวดหลังที่จะตามมา

ยกของหนักปวดหลัง แก้ยังไง

เป็นสาเหตุที่สามารถพบเจอได้บ่อยครั้ง เพราะจำเป็นต้องทำในชีวิตประจำวันและบางครั้งเกิดจากการเลี่ยงไม่ได้ โดยมีวิธีแก้อย่างง่ายที่สุดคือการใช้วิธียกของที่ถูกต้อง และก่อนยกต้องประเมินแล้วว่าสามารถยกได้โดยไม่เกินกำลังของตัวเอง ทั้งนี้วิธียอกของที่ถูกต้องทำได้โดยการย่อขาและลำตัวลงก่อนจะยกของขึ้นมา ไม่ควรก้มต้วแล้วยกของขึ้นทันที่เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

ทําไมเป็นประจําเดือนต้องปวดหลัง

ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนต้องพบเจออย่างเลี่ยงไม่ได้ คืออาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งมีสาเหตุมาจากมดลูกเกิดการบีบรัดหดจนไปกดเส้นเลือดบริเวณข้างเคียงจนเลือดส่วนนั้นไม่สามารถไหลเวียนไปได้ จนทำให้เกิดอาการปวดหลัง

นอนผิดท่าปวดหลัง แก้ยังไงดี

การนอนด้วยท่าที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังตามมา ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนท่านอนให้ถูกต้อง โดยเริ่มตั้งแต่ก่อนจะนอนต้องจัดท่าให้ถูกก่อน เช่น เมื่อนอนหงายควรนอนให้ตั้งแต่ช่วงศีรษะ คอ และหลังส่วนบนอยู่ในระนาบเดียวกัน ส่วนช่วงขาควรสูงขึ้นเล็กน้อยด้วยการใช้หมอนหนุนใต้ข้อพับเข่า ด้วยวิธีการนี้ก้จะช่วยลดช่วยลดอาการปวดหลังได้ และในการนอนตะแคง ควรนอนงอเข่าเล็กน้อย และใช้หมอนมาตรงหนุนระหว่างขา

นอนผิดท่าปวดหลัง แก้ยังไงดี
ท่านอนแก้อาการปวดหลัง

สรุป

อาการปวดหลังแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงแต่กินยาแก้ปวดหรือปล่อยไปก็คงหายในไม่ช้า แต่อันที่จริงแล้วอาการปวดหลังเกิดได้หลายตำแหน่งซึ่งบ่งบอกถึงหลายอย่างให้ทราบได้ว่าภายในร่างกายมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น อาการปวดส่วนบน อาการปวดส่วนล่าง ปวดหลังช่วงเอว หรือ ปวดหลังส่วนล่างผู้หญิง จนไปถึงอาการปวดเฉียบพลันที่เตือนว่าเกิดกล้ามเนื้อหลังอักเสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นเมื่อเกิดอาการปวดหลังขึ้นต้องสังเกตอาการและทำการรักษาเบื้องต้นตั้งแต่เนิ่นๆโดยการกินยาแก้ปสวดหลัง ทำกายภาพเบื้องต้นหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เสี่ยงต่ออาการปวดหลังได้ แต่หากมีอาการปวดหลังที่รุนแรงคือควรเข้ารับการวินิจัยจากแพทย์เพื่อเข้าการรักษาอาการปวดหลังอย่างถูกวิธี

เอกสารอ้างอิง

Yan W, Yu Y, Wang Y, Jiang X, Wan R, Ji C, Shi L, Wang X, Wang Y. Research Relating to Low Back Pain and Physical Activity Reported Over the Period of 2000–2020. J Pain Res. 2021;14:2513-2528
https://doi.org/10.2147/JPR.S312614

Shemshaki, H., Nourian, S. M., Fereidan-Esfahani, M., Mokhtari, M., & Etemadifar, M. R. (2013). What is the source of low back pain?. Journal of craniovertebral junction & spine4(1), 21–24. https://doi.org/10.4103/0974-8237.121620

Barros G,McGrath L,Gelfenbeyn M, Sacroiliac Joint Dysfunction in Patients With Low Back Pain. Federal practitioner : for the health care professionals of the VA, DoD, and PHS. 2019 Aug;  [PubMed PMID: 31456628]