ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนหรือในออฟฟิศที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ตู้เย็น” และเนื่องจากผู้ผลิตรายต่าง ๆ เห็นถึงความสำคัญในสิ่งนี้ จึงได้มีการพัฒนาตู้เย็นโดยตลอด ทั้งการใช้งาน, ดีไซน์ พร้อมตอบโจทย์ของเหล่าผู้บริโภคทั้งหลายออกมาเป็นตู้เย็นหลายขนาดตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ มีประตู 1-4 ประตูให้เลือก มีหลากหลายรูปแบบให้พิจารณา เช่น ตู้เย็น mini bar, ตู้เย็น side by side, ตู้เย็น เฟรนช์ดอร์ ฯลฯ
โดยในบทความนี้เราจะเน้นไปที่ ตู้เย็น side by side ตู้เย็นที่เด่นในเรื่องขนาดใหญ่ ความจุมาก แก้ปัญหาสำหรับทุกบ้านในเรื่องของพื้นที่ตู้เย็นไม่เคยพอ พร้อมกับฟังก์ชันที่ตู้เย็นแบบอื่นไม่มี
ตู้เย็น Side by Side มีลักษณะเช่นไร
เนื่องจากตู้เย็นได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านที่จำเป็นในปัจจุบันจากสภาพอากาศของบ้านเราประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนทำให้อาหารการกินเสียง่ายเร็วกว่าปกติ ดังนั้นวิธีที่จะถนอมอาหารให้มีอายุนานขึ้นก็คือการเก็บรักษาไว้ในที่เย็น ๆ เช่น ตู้แช่เย็น เป็นต้น แต่การเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่องก็เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะตู้เย็นแต่ละประเภทก็เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น
- ตู้เย็น mini bar เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย ไม่เน้นฟังก์ชันใช้งานเกี่ยวกับอาหารมากนัก
- ตู้เย็น 1 ประตู 2 ประตู จะคล้ายกับตู้เย็น mini bar เพียงแต่มีความจุมากกว่า มีแบ่งสัดส่วนมากขึ้น ลักษณะการใช้งานได้ทั้งแช่เย็น และแช่แข็ง
- ตู้เย็น 3-4 ประตู (มัลติดอร์) มีความจุเยอะมาก มีช่องแยกเก็บมากมาย ฟังก์ชันใช้งานมากสุด เหมาะสมกับครอบครัวที่สมาชิกจำนวนมาก
- ตู้เย็น side by side เป็นตู้เย็นที่สามารถเปิดประตูออกได้ทั้งซ้ายและขวาพร้อมกัน หรือเปิดทีละข้างคล้ายกับการเปิดหน้าต่างโดยใช้พื้นที่ในการเปิดประตูไม่มาก สะดวกทั้งการบรรจุและค้นหาของภายในตู้เย็น มีพื้นที่กว้างบรรจุของได้เยอะ โดยเฉพาะบางรุ่นสามารถกดน้ำแข็งหรือน้ำเย็นมาดื่มได้โดยไม่ต้องเปิดประตู
ตู้เย็น Side by Side แตกต่างจากตู้เย็นแบบอื่นยังไง
สำหรับคำถามที่ว่า ตู้เย็น side by side ดีไหม และแตกต่างจากตู้เย็นแบบอื่นยังไงนั้น เราสามารถจำแนก
ออกได้ดังต่อไปนี้
- สิ่งแรกก็คือขนาดตู้เย็น side by side จะค่อนข้างใหญ่เป็นพิเศษ ที่ให้ความจุเยอะทำให้แช่ได้เป็นปริมาณมากไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรืออาหาร
- ตู้เย็น side by side มีดีไซน์รูปแบบที่เด่น ทันสมัยหรูหรา สามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในที่พักอาศัยได้
- สามารถเปิดตู้เย็นได้ทีละประตูไม่ว่าจะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาแล้วแต่ความสะดวก
- มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย สามารถกดน้ำเย็น น้ำแข็งได้โดยไม่ต้องเปิดตู้เย็น
- ตู้เย็น side by sideบางรุ่นมีฟังก์ชันพิเศษที่ต่อเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อดูหนัง ฟังเพลงขณะทำอาหารได้
- เป็นตู้เย็นที่มีระบบความเย็นทันสมัย กระจายความเย็นได้ทั่วถึง และยังประหยัดไฟได้มาก
ตู้เย็น Side by Side นิยมใช้กับงานแบบไหน
สิ่งที่สำคัญและไม่ควรลืมก็คือ ผู้ซื้อต้องเลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมและเข้ากับพื้นที่จัดวางในห้องครัว เพราะว่าปกติแล้วตู้เย็น side by side จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตู้เย็นทั่ว ๆ ไป จึงสามารถแช่อาหารและเครื่องดื่มได้เป็นจำนวนมาก
ดังนั้นครอบครัวที่มีสมาชิกหลาย ๆ คน ต้องใช้พื้นที่ในตู้เย็นค่อนข้างเยอะ มักจะนิยมเลือกใช้ตู้เย็น side by side กับ multi door เพราะมีความจุที่มาก นอกจากนี้แล้วขนาดตู้เย็น side by side ยังเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารกินเอง หรือ คนที่นิยมจัดปาร์ตี้ นัดสังสรรค์เพื่อนฝูงเป็นประจำอยู่บ่อย ๆ
ตู้เย็น Side by Side มีเคล็ดลับในการเลือกซื้ออย่างไร
เคล็ดลับในการเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side ก็จะมี
- เลือกขนาดตู้เย็น side by side ให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
- สมาชิก 1-2 คน ขนาดที่เหมาะสมประมาณ 7-13 คิว (200-380 ลิตร)
- สมาชิก 3-4 คน ขนาดที่เหมาะสมประมาณ 12-18 คิว (350-530 ลิตร)
- สมาชิก 5 คนขึ้นไป ขนาดที่เหมาะสมไม่ต่ำกว่าประมาณ 15 คิว (440 ลิตร)
- ลักษณะการใช้งาน ส่วนใหญ่มักเก็บเป็นอาหารแช่แข็ง หรือ ผัก-ผลไม้ อาหารสด อีกทั้งมีการเติมอาหารเข้าตู้เย็นเป็นแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน
- ไลฟ์สไตล์ของคนใช้งานมีหลากหลาย เช่น บางคนชอบอาหารสำเร็จรูป, บ้างชอบผัก ผลไม้, บ้างชอบเนื้อสัตว์ ฯลฯ จึงควรมีความจุเยอะเพื่อสนองความต้องการของทุกคนได้
- สามารถเลือกรูปแบบ สีสันให้เข้ากับห้องครัวเสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านอีกชิ้นหนึ่งได้
- เลือกตู้เย็น side by side ขนาดที่พอเหมาะกับพื้นที่วางในห้องครัว มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
- มีฟังก์ชันพิเศษที่ช่วยประหยัดไฟได้ดียิ่งขึ้น เช่น สามารถกดน้ำเย็นดื่ม หรือ น้ำแข็งได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้เย็น
- เพราะตู้เย็น side by side มีขนาดใหญ่จึงต้องการพื้นที่มาก ๆ ในการจัดเก็บของ หรืออาหารที่ต้องใช้ความเย็นในการเก็บรักษา
- เป็นการใช้งานที่ช่วยประหยัดไฟ เพราะสามารถเปิดใช้งานประตูใดประตูหนึ่งของตู้เย็น side by side เพื่อหยิบของ ทำให้ความร้อนไหลเข้าตู้เย็นน้อยลง
- มีรับประกันมอเตอร์และตัวเครื่องเป็นระยะเวลานานหลายปี และมี on-site service ด้วย
- มีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ และสามารถจับจ่ายได้โดยไม่กระทบถึงค่าใช้จ่ายประจำวัน
- เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อให้มั่นใจว่าค่าไฟฟ้าจะไม่แพง
ตู้เย็น Side by Side มีวิธีการจัดระเบียบตู้เย็นให้ได้ผลอย่างไร
การตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น Side by Side นั้น ต้องไม่ลืมคิดถึงเรื่องของความจุ การจัดวาง และพื้นที่ของชั้นเก็บของ ส่วนใหญ่แล้วขนาดตู้เย็น side by side จะมีขนาดกลางที่ให้พื้นที่เก็บของที่มาก ทั้งยังง่ายต่อการจัดเก็บอาหาร ช่วยในการวางแผนการซื้อของเข้าตู้เย็น side by side ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังลดการสูญเสียของอาหาร
วิธีการจัดระเบียบตู้เย็น side by side ขนาดที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คือ
- ทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อตรวจสอบว่าอาหารที่มีอยู่นั้นหมดอายุหรือยัง
- จัดระเบียบวัตถุดิบที่มีลงในกล่องหรือซองพลาสติก หมั่นตรวจสอบอายุการใช้งานเสมอ
- ควรเรียงลำดับตามความถี่ในการใช้งาน เช่น ไข่ นม ชีส ไว้ด้านล่างตู้เย็น, น้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มต่าง ๆ ไว้ในช่องที่เข้าถึงง่าย, ผัก ผลไม้ ไว้ในช่องที่แยกไว้ต่างหาก
- ให้จัดวางของประเภทเดียวกันในโซนเดียวกันเพื่อง่ายต่อการจดจำและซื้อเพิ่มเติม
- แยกเก็บผักและผลไม้เพื่อคงความสดใหม่ให้ได้นานยิ่งขึ้น และไม่โดนสิ่งของหนัก ๆ กดทับ
- วางเครื่องปรุงหรือของที่เสียง่ายไว้ที่ประตูตู้เย็น เพื่อง่ายต่อการหยิบจับ และเตือนให้รีบใช้
สรุป ตู้เย็น Side by Side ที่ควรเลือกไว้ใช้
สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน และมีงบประมาณที่พอจับจ่ายไหว หากต้องการพื้นที่เก็บตู้เย็นปริมาณมาก และฟังก์ชันหลากหลาย เราขอแนะนำ ตู้เย็น side by side ที่สามารถตอบสนองทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีออปชันให้เลือกเป็นฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ และที่สำคัญตู้เย็นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับห้องครัวอีกด้วย
