9 เคล็ดลับ วิธีลดน้ำตาลในเลือด โดยไม่ต้อง กินยา
|

9 เคล็ดลับ วิธีลดน้ำตาลในเลือด โดยไม่ต้อง กินยา

ภาวะน้ำตาลในเลือดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วิธีลดน้ำตาลในเลือด ดีจึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการ ใช้ชีวิตในเรื่องการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน และตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงคืออะไร ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia)ได้แก่ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเกินกว่าเกณฑ์ค่าปกติ คือ มากกว่า 99 มก./ดล.หลังอาหาร 8 ชม.  และ เกิน 140 มก./ดล. หลังมื้ออาหาร 2 ชม.  ผู้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมักมีสาเหตุมาจากโรคเบาหวานเป็นหลัก เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นมีระดับ น้ำตาลสูงขึ้นได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้การควบ คุมระดับน้ำตาลผิดปกติ ต่างจากคนทั่วไปที่ฮอร์โมนอินซูลินจะถูกผลิตและหลั่งจากตับอ่อนหลังมื้ออาหาร โดยทำหน้าที่เป็นตัวนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายเพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน ส่งผลให้ ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในระดับปกติ  อันตรายจากน้ำตาลในเลือดสูง หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจเสี่ยงเกิด ภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายตามมา เช่น การทำงานของไตเสื่อมลงจนอาจเกิด ไตวาย โรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เส้นประสาทถูกทำลายและทำงานผิดปกติ ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เจ็บเหมือนเข็มทิ่ม และการรับรู้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป โรคทางตาหรือเกิดความผิดปกติกับดวงตาที่เรียกว่าเบาหวานขึ้นตา เช่น…

รวมสรรพคุณ บีทรูท ประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน
| |

รวมสรรพคุณ บีทรูท ประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกคน

บีทรูทประโยชน์ มากหลากชนิด และมีการใช้ในการประกอบอาหารเพื่อสร้างสีสันให้กับอาหาร นำมารับประทานเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม รวมถึงนำมาสกัดอยู่ในรูปแบบอาหารเสริม แต่แล้วบีทรูทมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไร ทานแล้วมีโทษอันตรายหรือไม่ มาเรียนรู้เกี่ยวกับบีทรูทไปด้วยกันเถอะ! บีทรูท คืออะไร บีทรูท ชื่อวิทยาศาสตร์ Beta vulgaris L. หรือที่รู้จักในชื่อภาษาไทย ผักกาดฝรั่ง เป็นพืชผักมีหัวพืชหรือรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน มีถิ่นกำเนิดในแถบยุโรป และในประเทศไทยมักมีการปลูกในบริเวณภาคเหนือ มีรูปร่างกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร ในส่วนของเนื้อด้านในของบีทรูทจะชุ่มน้ำสีแดง สีม่วงแดง หรือ สีเหลือง บีทรูทมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดหัว โดยหัวที่มีขนาดเล็กจะมีรสหวานมากกว่าหัวขนาดใหญ่ โดยส่วนมากแล้วมักจะนำบีทรูทมาทานแบบสด นำมาดองหรือปรุงอาหาร รวมถึงนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยารักษาโรค บีทรูทประโยชน์ และสารอาหารที่มี บีทรูท ประโยชน์มีมากมายหลายประการ โดยในหัวบีทรูทดิบ 100 กรัมจะประกอบด้วยน้ำ 88 เปอร์เซ็นต์ ให้พลังงานกับร่างกาย 43 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต 9.56 กรัม  น้ำตาล 6.76 กรัม ไขมัน…

วิธีลดคลอเรสเตอรอล
|

วิธีลดคลอเรสเตอรอล

การ ลดคลอเรสเตอรอล ในร่างกาย เป็นสิง เมื่อต้องตรวจสุขภาพ มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงพฤติกรรมในการกินของเรา การกินอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด อาหารมัน เป็ยสิ่งที่ทำให้ค่าคลอเรสเตอรอลในร่างกายสูง ส่งผลให้มีโรคแทรกซ้อนต่างๆตามมา ดังนั้นการลดคลอเรสเตอรอลเป็นสิ่งที่คนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากได้ 9 วิธี ลดคลอเรสเตอรอล ทำตามง่าย ทุกเพศทุกวัย คลอเรสเตอรอล คืออะไร คลอเรสเตอรอลเป็นเพียงอาการผิดปกติ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ที่เราสามารถดูแลตัวเองรักษาให้หายได้ ให้ค่าคลอเรสเตอรอลของเรากลับมาเป็นปกติ  แต่เพราะต้นเหตุของคลอเรสเตอรอลสูง มาจากพฤติกรรมการกินประมาณ 95% คลอเรสเตอรอล คือไขมันชนิดหนึ่งที่ร่ายการสร้างขึ้นจากตับ สามารถพบได้ในส่วนของผนังเซลล์ทุกเซลล์ของคนเรา รวมทั้งเป็นองค์ประกอบของน้ำดีอีกด้วย อีกทั้งร่างกายของเราจะได้รับคลอเรสเตอรอลจากอาหารที่รับประทานเข้าไปจากภายนอก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่สูง แต่ตับของเราก็สามารถสังเคราะห์คลอเรสเตอรอลขึ้นเองได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคลอเรสเตอรอลที่รับประทานเข้าไปมากเกินพอจึงกลายเป็นส่วนเกินของเร่างกาย และมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรค เพราะคลอเรสเตอรอลจะไปเกาะบริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ คอลเรสเตอรอล แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ LDL Cholesterol เป็นคลอเรสเตอรอลที่อันตรายเพราะจะเกาะตัวตามผนังของหลอดเลือดแดง ซึ่งจะทำให้ความยืดหยุ่นเสียไป และเกิดหลอดเลือดตีบตันตามมา HDL Cholesterol เป็นคลอเรสเตอรอลที่มีประโยชน์เพราะจะช่วยป้องกันการเกาะตัวของ LDL ที่ผนังของหลอดเลือดแดง ช่วยในการป้องกันการเกิดหลอดเลือดตีบตันได้…

โสม สุดยอดประโยชน์จากสมุนไพร
|

โสม สุดยอดประโยชน์จากสมุนไพร

โสม เป็นสมุนไพรยอดนิยม และมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องสรรพคุณด้านการเป็นยาบำรุง เป็นยาสมุนไพรที่อยู่คู่กับการแพทย์แผนตะวันออกมาอย่างยาวนานเป็นเวลานับพันปี ในปัจจุบันโสมนั้นเป็นที่นิยมกับคนทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย คนมักนำโสมไปเป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม ยาบำรุง เพื่อช่วยเสริมสร้างพละกำลัง และปรับสมดุลให้กับร่างกาย ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ โสม ราชาสมุนไพรแห่งโลกตะวันออก ว่าสรรพคุณของมันมีอะไรบ้าง และดียังไง โสม ที่สุดของสมุนไพร อุดมด้วยสรรพคุณ โสมมีอยู่ด้วยกันกี่สายพันธุ์ โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบประเทศจีน และประเทศเกาหลี แต่ในปัจจุบันด้วยความที่โสม ถูกยกให้เป็นเหมือนเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวในคุณค่าของโสม ทำให้โสมในพื้นที่ต่างๆ ที่เคยถูกเพิกเฉย เริ่มมีการนำมาใช้ และนำมาขยายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ของโสมที่เราจะนำมาเสนอมีอยู่ด้วยกัน ดังนี้ โสมเกาหลี โสมเกาหลี เป็นโสมที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ถูกกล่าวถึงอย่างมากทั้งในวงการแพทย์ สื่อโฆษณาต่างๆ ไปจนถึงสื่อบันเทิงมากมาย โดยโสมเกาหลีนั้นมีลักษณะเหมือนโสมทั่วๆไป ตั้งแต่ราก ลำต้น ใบ ไปจนถึงดอก สามารถนำมาทำเป็นยาบำรุงร่างกาย หรืออาหารเสริมได้ โสมจีน โสมจีน มีการใช้มาเป็นเวลานานแล้ว โดยโสมจีนนั้นได้มาจากมณฑลกวางสี หรือยูนนาน ปัจจุบันมีการนำมาปลูกในเวียดนามเป็ยจำนวนมาก แต่เนื่องจากต้นกำเนิดของมันอยู่ที่จีน ทำให้คนเรียกมันว่า โสมจีน ซึ่งสรรพคุณของมันนั้นก็ไม่ได้แพ้โสมชนิดอื่นเลย โสมอเมริกา สำหรับโสมอเมริกา…

ปวดสะบัก เรื้อรัง รักษาหายไหม แก้อย่างไรได้บ้าง
|

ปวดสะบัก เรื้อรัง รักษาหายไหม แก้อย่างไรได้บ้าง

การใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงระหว่างการเดินทาง ระหว่างการเรียนหรือการทำงาน รวมถึงการทำพฤติกรรมอื่น ๆ ล้วนเต็มไปด้วยการกระทำที่เร่งรีบจนทำให้ผู้คนต่างลืมที่จะดูแลใส่ใจสุขภาพร่างกายของตนเอง รวมถึงในบางครั้งก็อาจจะทำพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดผลเสียกับร่างกายอีกด้วย เช่น การยกของหนักเป็นประจำ การนั่งเก้าอี้ผิดท่า การออกกำลังกายผิดวิธี และอื่น ๆในกรณีที่เผลอทำพฤติกรรมเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็อาจจะส่งผลทำให้ร่างกายเกิดอาการปวดตามจุดต่าง ๆ ซึ่ง “ปวดสะบัก” ก็เป็นหนึ่งในอาการปวดยอดฮิตที่หลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหาอยู่ ปวดสะบัก เกิดจากกล้ามเนื้อหรือเอ็นบริเวณสะบักเกร็งตัวจนทำให้เกิดอาการอักเสบ จุดกดเจ็บ และพังผืดไปเกาะบริเวณที่มีปัญหาดังกล่าวจนทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ ได้ จึงทำให้เกิดอาการปวดสะบัก สะบักเจ็บ ตึง บริเวณระหว่างลำตัวบนถึงใต้บ่า โดยอาการปวดสะบัก หรือที่เรียกว่า สะบักจม สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีความผิดปกติของกระดูก มีอาการปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ซึ่งอาจเกิดจากการพฤติกรรมผิดปกติในชีวิตประจำวัน เป็นต้น สาเหตุของการปวดสะบัก เกิดจาออะไร ปวดสะบักเกิดจากอะไร อาการปวดสะบักสามารถเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ มากมาย ดังนี้ ร่างกายอยู่ในท่าที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรืออยู่ผิดท่า เป็นระยะเวลานาน เช่น นั่งก้มคอ นั่งยืดคอ นั่งห่อไหล่ หลังค่อม นั่งก้ม…

ภัยเงียบอาการปวดหลัง สัญญาณอันตราย รู้ก่อน รักษาได้
|

ภัยเงียบอาการปวดหลัง สัญญาณอันตราย รู้ก่อน รักษาได้

อาการปวดหลังนับได้เลยว่าแทบจะเกิดขึ้นไได้กับทุกเพศทุกวัยโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งอาการของการปวดหลังเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปวดหลังส่วนบน ปวดหลังช่วงล่าง ปวดหลังช่วงเอว ปวดหลังจุกกลางอก ปวดหลังเฉพาะผู้หญิงที่มักเป็นในช่วงเป็นประจำเดือน จนไปถึงอาการปวดหลังอื่นๆ โดยอาจมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ หรือเกิดจากความผิดปกติของร่างกายแล้วส่งผลกระทบต่อมาบริเวณหลัง ทั้งนี้อาการปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน หรือในบางรายมีอาการปวดหลังเรื้อรังอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปอาการทวีรุนแรงขึ้นจนมีผลต่อการชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถรู้เท่าทันต่ออาการปวดหลังที่เกิดขึ้น สาเหตุและที่มาของอาการ รวมไปถึงข้อสงสัยต่างๆที่มักพบได้บ่อย ในบทความนี้จึงรวบรวมมาให้ทำความเข้าใจถึงอาการปวดหลัง อีกทั้งวิธีช่วยบรรเทาอาการปวดหลังแและการรักษาที่ถูกวิธีอีกด้วย อาการปวดหลัง เกิดจากอะไร อาการปวดหลัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากอวัยวะบริเวณหลังหรือจากบริเวณอื่นๆแล้วมากระทบถึงบริเวณหลังได้ ซึ่งอาการเบื้องต้นเป็นอาการปวดเมื่อยทั่วไปจนไปถึงระดับอาการรุนแรงตามสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ และโดยแต่ละตำแหน่งของอาการปวดหลังนั้นเองก์สามารถบอกได้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดได้ด้วย ดังนี้ อาการปวดหลังส่วนบน มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมชอบก้มเล่นโทรศัพท์มือถือนานๆ นั่งหลังค่อม หรือยกของที่มีน้ำหนักมาก รวมไปถึงชอบสะพายสัมภาระหนักๆไว้บนบ่าข้างเดียว ซึ่งมีผลอย่างมากโดยฌแพาะผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องยกของหนักๆหรือต้องก้มหัวเป็นเวลานานๆ ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนทำงานหนักขึ้น ในระยะยาวจะมีอาการปวดคอและอาการไหล่เอียงในผู้ชอบสะพายกระเป๋าข้างเดียว อาการปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดหลังช่วงเอว อาจมีสาเหตุมาจากการที่ยืนหรือนั่งเป็นเวลานานเกินไป เป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยในโรคออฟฟิศซินโดรม และอีกส่วนหนึ่งคือภาวะของน้ำหนักตัวที่มากเกินไปรวมถึงจากอาการปวดประจำเดือนก็เป็นสาเหตุของอาการปวดส่วนนี้ได้เช่นกัน อาการปวดหลังด้านซ้าย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะน้ำหนักเกินไป พฤติกรรมจากท่านั่งหรือท่ายืนที่ไม่ถูกต้อง การปวดหลังจากตามอายุ ปวดหลังจากการตั้งครรภ์ การปวดหลังจากอาการป่วยหรืออาการกล้ามเนื้อฉีกขาด รวมไปถึงจากโรคงูสวัดที่ส่งผลต่อเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดหลัง อาการปวดหลังข้างขวา เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากการนั่งเป็นเวลานาน ยกของที่มี่น้ำหนักมากผิดท่า ภาวะน้ำหนักมากเกินไป ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ การไม่ออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนหลังก้เป็นหนึ่งใส่สาเหตุที่ทำให้ปวดหลังได้ รวมไปถึงความผิดปกติของอวัยวะภายใน เช่น…

ออฟฟิศซินโดรม อาการปวดเรื้อรังของคนทำงาน
|

ออฟฟิศซินโดรม อาการปวดเรื้อรังของคนทำงาน

ทุกวันนี้การทำงานออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นตำเเหน่งไหนก็ต้องใช้ความคิด ใช้ไอเดียในการทำงาน และแก้ปัญหาที่ต้องเจอในแต่ละวัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่สุด สภาพร่างกายต้องพร้อมที่สุดเช่นกัน ซึ่งออฟฟิศซินโดรมเป็นสิ่งที่บั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานไม่มากก็น้อย เพื่อให้คนทำงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุข สื่งที่ต้องตระหนักเลย คือ ออฟฟิศซินโดรม คืออะไร และอาการออฟฟิศซินโดรมเป็นอย่างไร และจะสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร เกิดจากอะไร? ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คือ โรคที่เกิดจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และทำในท่าทางที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด อาการปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น รวมไปถึงอาการปวดหรือชาจากปลายประสาทที่ถูกกดทับ กลุ่มอาการเหล่านี้หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรัง ก็จะเรียกกลุ่มอาการเหล่านี้ว่าเป็นออฟฟิศซินโดรม ออฟฟิศซินโดรม มีสาเหตุจากการทำงานด้วยกิริยาท่าทางใดท่าทางหนึ่งอย่างไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานาน สร้างภาระต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งมักพบได้ในกลุ่มคนที่ทำงานในออฟฟิศ โดยสาเหตุของ ออฟฟิศซินโดรมสามารถสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้ สภาพแวดล้อมในการทำงาน : ความสูงของโต๊ะ และเก้าอี้ที่ทำงาน ตำเเหน่งของหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมาส์ หรือคีย์บอร์ด สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมในการนั่งทำงานของเรา ซึ่งหากจัดได้ไม่ดี ก็จะเป็นสาเหตุหลักๆให้เราเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ ท่าทางในขณะที่ทำงานอยู่ : ตั้งแต่การนั่ง การวางมือหรือข้อศอกบนโต๊ะที่ไม่ถูกต้อง การทำงานในระยะเวลานานๆ : นอกจากนั่งด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะกับร่างกายแล้วการใช้กล้ามเนื้อในจุดเดิมซ้ำๆ โดยไม่มีการยืดเส้น เช่น…

ตอบคำถาม เลเซอร์ปลูกผม แก้ผมร่วง ผมบางได้จริงไหม?

ตอบคำถาม เลเซอร์ปลูกผม แก้ผมร่วง ผมบางได้จริงไหม?

ในยุคสมัยนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทรงผมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก ผมที่ดูหนาตามธรรมชาติย่อมส่งเสริมให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ผู้คนมากมายจึงมักจัดแต่งทรงผมของตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม หลายคนกำลังประสบกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน โดยหาสาเหตุและทางแก้ไม่ได้ บทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีแก้ผมบาง ผมร่วงด้วยการทำเลเซอร์ปลูกผม ตัวช่วยกระตุ้นการทำงานลึกถึงระดับเซลล์ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ได้ผลลัพธ์คุ้มค่า เลเซอร์ปลูกผม (Laser Hair Growth) เลเซอร์ปลูกผม (Laser Hair Growth) เป็นเทคนิควิธีการแก้ปัญหาอาการผมร่วง ผมบาง โดยใช้คลื่นพลังงานต่ำจากแสงเลเซอร์ ฉายเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการ เพื่อให้คลื่นพลังงานนั้นกระตุ้นการทำงานในระดับเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ทำให้เซลล์บริเวณหนังศีรษะกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น นำสารอาหาร และเลือดมาหล่อเลี้ยงบำรุงหนังศีรษะได้ดียิ่งขึ้น และทำให้เซลล์รากผมที่อาจเสื่อมสภาพ หรือเริ่มฝ่อกลับมาผลิตเส้นผมที่สมบูรณ์ แข็งแรง งอกงามอีกครั้ง เลเซอร์ปลูกผม ได้ผลจริงไหม เลเซอร์ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในธุรกิจเสริมสวย เสริมความงาม เราอาจจะคุ้นชินกับการใช้เลเซอร์เพื่อบำรุงผิวหน้า หรือการใช้เลเซอร์เพื่อแก้ปัญหาโรคผิวหนังมาก่อนหน้านี้  ในขณะเดียวกันเลเซอร์ปลูกผมก็ได้รับการศึกษา วิจัย และพัฒนานวัตกรรมจนสามารถนำเลเซอร์ปลูกผมมาใช้แก้ไขปัญหาอาการผมร่วง ผมบางได้จริง และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการการปลูกผม เพราะเป็นวฺิธีการรักษาอาการผมร่วง ผมบางที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น…

แนะนำ 6 วิธี ลดไขมันในเลือด  โดยไม่ต้องพึ่งยา
|

แนะนำ 6 วิธี ลดไขมันในเลือด โดยไม่ต้องพึ่งยา

ใคร ๆ ก็คงทราบกันดีว่าเมื่อมีไขมันสะสมในร่างกายย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ยิ่งการมีไขมันในเลือดสูงแล้วยิ่งส่งผลอันตรายกับร่างกายเป็นอย่างมากและเป็นจุดเริ่มต้นของโรคอันตรายหลาย ๆ โรคอีกด้วย ฟังแบบนี้แล้วการมีไขมันในเลือดสูงใคร ๆ ก็คงจะไม่อยากเป็นกันใช่ไหมล่ะครับ นอกจากการรักษาด้วยการกินยาแล้ว ยังมีวิธีลดไขมันในเลือด โดยไม่ต้องกินยาก็ให้ผลดีในระยะยาวเช่นเดียวกัน  ระดับไขมันในเลือด ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร ก่อนเราจะไปทราบถึงระดับไขมันในเลือดสูงเท่าไรจึงจะอันตราย เรามารู้จึกถึงชนิดของไขมันในร่างกายมนุษย์กันก่อนครับ ไขมันในร่างกายมนุษย์มีทั้งหมด 2 ประเภทใหญ่ ๆ  คอลเรสเตอรอล (Cholesterol) การรับประทานอาหารประเภทของหวาน มัน เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทะเล รวมไปถึงขนมคบเคี้ยวที่อาจมีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะส่งผลให้ระดับคอลเรสเตอรอลในร่างกายสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคอลเรสเตอรอลยังสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ชนิด LDL, ไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ หรือไขมันชนิดไม่ดี ซึ่งไขมันชนิดนี้ก่ออันตรายแก่สุขภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตแย่ลงและอาจทำให้หลอดเลือดตีบตันได้ จนเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบตัน HDL, ไขมันชนิดความหนาแน่นสูง หรือไขมันชนิดดี ไขมันชนิดนี้มักพบในอาหารประเภทเนื้อปลา ไข่ อะโวคาโด น้ำมันมะกอก และอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งไขมันดีนี้มีส่วนช่วยให้ไม่ให้ไขมันไม่ดีไปสะสมและเกาะตัวที่ผนังหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้  ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เป็นไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองจากแป้งและน้ำตาลที่รับประทานเข้าไป เมื่อร่างกายได้รับพลังงานเกินพอ พลังงานนั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันหรือไตรกลีเซอไรด์นั่นเอง…

ไขมันในเลือดสูง ภาวะเสี่ยงที่ควรระวัง

ไขมันในเลือดสูง ภาวะเสี่ยงที่ควรระวัง

ภาวะไขมันในเลือดสูงเป็นภัยเงียบอันตรายที่ควรระวัง เนื่องจากไขมันในเลือดสูงเป็นภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ ภายในร่างกายมากมาย เช่น เส้นเลือดตีบ อุดตัน หรือ โรคหัวใจ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูงรวมถึงควบคุมร่างกายไม่ให้มีปริมาณไขมันในเส้นเลือดสูงเกินไป จึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงมีการดูแลรักษาอย่างไรเมื่อร่างกายกำลังประสบกับปัญหาภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะไขมันในเลือดสูงคือ? ไขมันในเลือดสูง(Dyslipidemia) คือ ภาวะเลือดที่อยู่ในร่างกายมีปริมาณไขมันมากกว่าปกติ โดยในร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยไขมัน 3 ประเภท คือ ไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) ไขมันชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือไขมันชนิดดี คือ ไขมันที่จะเป็นประโยชน์ให้กับร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันและกำจัดคอเรสเตอรอลและไขมันชนิดไม่ดีที่เกาะสะสมตามผนังหลอดเลือดแดงออกไป โดยในร่างกายควรมีไขมันชนิดดีในระดับไม่ต่ำกว่า 40 mg/dL ไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) ไขมันชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือไขมันชนิดไม่ดี คือ ไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งก็คือคอเรสเตอรอลที่เกาะสะสมตามผนังหลอดเลือด เป็นเหตุของหลอดเลือดแดงตีบตันและแข็ง โดยในร่างกายไม่ควรมีไขมันชนิดไม่ดีเกิน 120 mg/dL ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ไตรกรีเซอไรด์ (triglycerides) เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสังเคราห์ลำไส้เล็กและตับ หรือ ได้รับจากการรับประทานอาหารประเภทไขมันโดยตรง เช่น น้ำมัน เนย เป็นต้น…